ว่ากันว่าความสุขอย่างหนึ่งของผู้คน คือการได้ฝัน เมื่อมีความฝัน ชีวิตก็ยังมีความหวัง เป็นการสร้างแรงจูงใจในการดำเนินชีวิตวิธีหนึ่ง
ตอนเด็กๆผมเคยฝันอยากเป็น”นักฟุตบอลทีมชาติ” อยากเล่นเก่งๆ มีชื่อเสียง พอโตขึ้นมา เริ่มเข้าใจว่า การเล่นทีมฟุตบอลของโรงเรียนกับการติดโผทีมชาตินั้น ช่องว่างมันห่างกันหลายกิโลเมตร
เปลี่ยนแผนใหม่ทันทีครับ สร้างฝันใหม่ คราวนื้เลือกฝันที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด
คิดอยู่นานว่าอยากเป็นอะไรดี ที่เป็นไปได้มากที่สุด
ได้บทสรุปบอกเพื่อนฝูงว่าอยากเป็น”หนอนหนังสือ”
ง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้พรสวรรค์เข้ามาเกี่ยวข้อง ใช้แต่”พรแสวง”อย่างเดียวเท่านั้น
เริ่มต้นตะลุยอ่านหนังสือ ทั้งการ์ตูน นิยายจีน นวนิยายไทย หนังสือแปล ฯลฯ
อ่านหมดครับยกเว้น หนังสือเกี่ยวกับผีๆสางๆ แฮ่ม..ไม่ได้กลัวครับ แต่ไม่ชอบอ่านไป แล้วต้องเหลียวซ้ายมองขวา ผวาอยู่ตลอด เจอหนังสือผีๆเมื่อไหร่ปฏิเสธทันที
สุดท้ายเลยต้องเปลี่ยนนิยามความฝันใหม่
“อยากเป็นหนอนหนังสือทุกอย่าง ยกเว้นหนังสือผี”
หลายปีผ่านมา ตั้งกติกาสำหรับตัวเองว่า 1 สัปดาห์ต้องหาเวลาเข้าร้านหนังสืออย่างน้อย 1 ครั้ง เข้าไปซื้อบ้าง เข้าไปอ่าน(ฟรี)บ้าง อย่างน้อยจะได้เห็นว่ามีหนังสืออะไรออกใหม่บ้าง
ช่วงหลังเริ่มหันมาอ่านหนังสือทางด้านการตลาด ดูวิธีคิดของคนรวยๆ รวมถึงปรัชญาการดำเนินชีวิต อ่านแล้วถึง..บางอ้อ เลยครับ ว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงประสพความสำเร็จ เพราะมีมุมมอง มีความคิดที่”ตกผลึก”
อ่านแล้ว นำไปประยุกต์ใช้ได้เลย
ยกเอามาให้คุณๆลองอ่านดู อาทิเจ้าสัวซี.พี ธนินท์ เจียรวนนท์ บอกว่า”ผมบอกพนักงานอยู่เสมอคือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณเพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่งจงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว”
หรืออย่างบุคคลที่ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประเทศไทย เจ้าพ่อเบียร์ช้าง เจริญ สิริวัฒนภักดีบอกว่า”ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า แต่ถ้าวันใด ที่เขื่อนนั้นเปราะบาง และโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งผมเคยสยบยอมก็ตาม”
อือม์......คมวาทะของเจ้าสัว จริงๆ
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น