วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ภาษาขาโจ๋

              วัยรุ่น วัยที่มีพลังงานเหลือเฟือ แถมยังมีจินตนาการกว้างไกล โลกของวัยรุ่นจึงเป็นโลกแห่งความสุข  โลกแห่งปัจเจกบุคคล ดังนั้นคนวัยอื่นโดยเฉพาะผู้ใหญ่จึงมักอยู่ในอาการเข้าไม่ถึง ซึมซับไม่ออก  ยิ่งสมัยนี้อินเตอร์เน็ตกลายเป็นคนกลางระหว่างวัยรุ่นกับพ่อแม่ 
                พอมีปัญหาเด็กไทยก็หันหน้าไประบายในอินเตอร์เน็ตแทนที่จะมาปรึกษาพ่อแม่เหมือนแต่ก่อน ดังนั้นพ่อแม่ยุคใหม่ เลยต้องปรับตัวให้กับกับกระแส สังคมไซเบอร์ ของลูกๆทั้งหลาย
                ผมชอบเข้าไปดูกระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆ ดูมุมมองของเด็กสมัยนี้ ว่าคิดอ่านกันอย่างไร มองการบ้านการเมืองแนวไหน เพราะกลัวเป็นคนตกยุค เพราะโลกอินเตอร์เน็ตตอนนี้โตขึ้นเรื่อยๆตามเข็มวินาทีกระดิก 
                ตัวอย่างที่เห็นง่ายๆคือ เด็กนักเรียนสมัยนี้ เวลาทำการบ้าน จำเป็นต้องพึ่งพา กูเกิ้ล เพื่อหาคำตอบมาตอบการบ้าน เพื่อนผมคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาผมคืนหนึ่ง บอกว่าการบ้านประวัติศาสตร์ที่ครูให้ลูกตัวเองมา คำถามอยู่ในระดับแฟนพันธุ์แท้ ถึงจะตอบได้  ผมเลยแนะประโยคง่ายๆว่าคิดไม่ออก  บอกกูเกิ้ล เพื่อนถึงบางอ้อ  ไปหาคำตอบได้ในที่สุด
                เคยไปนั่งฟังบรรดาเด็กวัยรุ่นเขาคุยกันมั้ยครับ  ใครที่อายุอยู่ในระนาบ วัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงวัยฉกรรจ์ มาฟังวัยรุ่นเขาส่งเสียงพูดคุย  อาจจะเกิดอาการง.งู สองตัวเอาหัวชนกัน  ทำหน้าแมวสงสัย ว่าเด็กมันพูดเรื่องอะไร
                ผมเองเคยตกอยู่ในกลางวงล้อมเช่นนี้ ครั้นจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด บอกว่าไม่เข้าใจ ก็กลัวว่าจะโดนประณามว่า แก่เกินแกงเลยต้องทำเนียนว่าเข้าใจทุกกระบวนความ  ประมาณว่าโลกของเธอ กับโลกของฉัน มันเป็นโลกใบเดียวกัน
                วันนี้เลยขอรอบรวม ภาษาวัยรุ่ย ยุคนี้มาฝากบรรดาผู้มีอายุ ทั้งหลายให้ซึมซับ เผื่อภายภาคหน้า อาจจะได้หยิบมาใช้  ยามจวนตัว
                ภาษาวัยรุ่นนั้นประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1.ศัพท์ที่เป็นศัพท์เฉพาะ ที่ถูกบัญญัติขึ้นมา สวนทางกับไวยากรณ์ของไทย   2. น้ำเสียง และสุดท้ายคือ ลักษณะท่าทางประกอบคำพูด ลองมาดูศัพท์ของขาโจ๋เมืองไทย เริ่มจาก
                -ไม่ไหวที่จะเคลียร์   เวลาพูดต้องพูดเร็วๆ  ใช้สีหน้าเบื่อหน่ายประกอบ  มีความหมายคือ ไม่ไหวแล้ว  รับไม่ได้แล้ว พอเถอะ
                -มันเป็นอะไรที่ภาคภูมิ  พูดเร็วปานกลาง ค่อนไปทางช้า  ใช้สีหน้ายิ้ม เงยหน้ามองฟ้า ความหมายคือ อยากจะอวดมากๆ หรืออยากจะโชว์
                -ช่างกล้า  พูดช้าค่อนไปทางเร็ว  ใช้การแบะปากประกอบคำพูด แปลว่า กล้าจริงๆให้ตายเหอะ
                ซักเรื่องได้มั้ย  พูดเน้นเสียง หนักแน่นชัดเจน สีหน้าดูถูก ความหมายคือ อย่ามายุ่งซักเรื่องจะได้มั้ย
                สกุ๊ย   เสียงดังชัดเจน  ท่าทางต้องดุดัน แปลว่า สถุน+กุ๊ย
                ส่งแฟกซ์  น้ำเสียงเบาๆแต่ลึกซึ้งในความหมาย ท่าทางต้องเขินอายนิดหนึ่ง  ความหมายคือ จะไปเข้าห้องน้ำปล่อยอุนจิ
                ให้ว่อง น้ำเสียงดุดัน อารมณ์เสีย  ท่าทางอยู่ในลักษณะคิวติดกัน อ้าปากกว้าง แปลว่า เร็วๆหน่อยได้มั้ยฟะ
                อ๋อ..เหรอค่ะ  ออกเสียงให้แอ๊บแบ๊ว นิดนึง พร้อมกับอาการ ตาโต ปากเล็กๆเอียงคอเล็กน้อย  ความหมายคือ ตอแหลหรือเปล่าค่ะ เรื่องที่เล่ามาเนี่ย
                ขาถ่าง  ออกเสียงเข้ม พร้อมทำท่าหงุดหงิด ใช้ตอนทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน แล้วทำไม่ทัน
                ชิมิ  ท่าทางและน้ำเสียงต้องแอ๊บแบ๊ว ทุกกระบวนความ แปลว่า ใช่มั้ย
                เป๊ะเวอร์ น้ำเสียงและท่าทางต้องออกแนวหมั่นไส้ แปลว่า สวยแบบโอเวอร์มากๆ
                สุดตีน  ออกเสียงแบบดังๆชนิดสะใจคนพูด   แปลว่าเจ๋งมากๆ  เก่งสุดๆ
                กากจริงๆ  น้ำเสียงต้องออกแนวเข้ม  ใช้สีหน้าแบบดูถูกและสะใจ แปลว่า ไม่ได้เรื่อง
                อาร์ตมาก เวลาพูดต้องพูดช้าๆ ชัดเจน ท่าทางอาจจะตาปรือเล็กน้อยแต่ยกย่อง แปลว่า อารมณ์ศิลปิน ทำอะไรได้ตามใจไม่แคร์คนอื่น
                สลัมบอมเบย์  พูดช้าๆค่อนไปทางเร็ว แบะปากประกอบคำพูด แปลว่า ต่ำสุดๆ
                ซาไก  พูดช้าๆ ค่อนไปทางเร็ว  ใช้วิธีแบะปากเหมือนกัน เอาไว้ใช้พูดเวลาดูถูกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เหมือนอยู่ตามชนเผ่าแล้วเพิ่งเข้ามาในเมือง
                แด๊พ พูดช้าๆค่อนข้างไปทางเร็วนิดนึง คำๆนี้เป็น Verb ช่อง 3 ของคำว่า แดก
                นี่หรือเมืองพุทธ ใช้น้ำเสียงขำๆ ชัดเจน ระคนตกใจเล็กน้อย ใช้ในเวลาที่เราประหลาดใจ
                อริสมันต์ เสียงเข้ม หงุดหงิดแต่ต้องพูดช้าๆ ใช้กับคนที่พูดจาไม่ชัดเจน
                เมี๊ยว  เมี๊ยว เวลาพูดต้องใช้ความสามารถนิดนึงคือต้องพูดให้เร็วที่สุด สีหน้าท่าทางๆใช้วิธียิ้มลูกเดียว  ที่มามาจากคำว่าไม่เอา แต่พูดเร็วๆรัวๆหลายๆครั้ง
                เซ็งเป็ด ใช้เสียงเข้ม หงุดหงิด แปลว่า เซ็งโคตรๆ หรือเบื่อเป็นที่สุด
                รวมมิตร ใช้วิธีพูดทีละคำแต่ต้องชัดเจน พร้อมกับอาการดูถูกและสะใจ แปลว่า เป็นการรวมความเป็นที่สุดเช่น ขี้เหร่ รวมกับดำ เตี้ย ดั้งหัก ปากหนา ขาโก่ง ฯลฯ
                ไฮเปอร์โบล่า พูดช้าๆ ชัดเจนอาจจะใช้กริยาแอ๊บแบ๊วเข้ามาเป็นส่วนประกอบก็ได้ แปลว่าพวกที่ชอบทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน
          ฯลฯ
                ศัพท์แสงทั้งหลายยังมีอีกมาก ถ้าเป็นโฆษณาอาจจะต้องใช้สโลแกนและน้ำเสียงของคุณพี่สมจิตร  จงจอหอ  ที่ว่า ผ่านมาเยอะ  โดนมาเยอะ มาประกอบจึงจะสมเหตุ สมผล
                ส่วนใครที่อยากย้อนอดีตกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้งอาจะต้องท่องจำให้ขึ้นใจ  พร้อมทั้งใช้เวลาว่างเสาะหาศัพท์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมตามกระทู้ทั่วไปในโลกอินเตอร์เน็ต เผื่อว่าจะนำมาแปลงร่างกลายเป็นตั๋วผ่านเพื่อเข้าสู่สู่โลกของวัยรุ่นไทยในยุคปัจจุบัน 
                ชิมิ  ชิมิ
                                                                                                                                                กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น