วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กำไลยอดฮิต 12/4/2548



                ว่ากันว่า เมืองไทยของเรา โรคเห่อนั้นไม่เคยเป็นรองชาติใด ค่านิยมแบบไหนๆชาติใดๆ พี่ไทยรับได้หมด  โดยเฉพาะแฟชั่นต่างๆ ที่ฮอตฮิต ลองหลุดเข้าหูพี่ไทยเมื่อใด รับรองว่าปั่นกระแสได้ทันที
                ล่าสุดแฟชั่นสุดฮิตที่พี่ไทยไม่ยอมน้อยหน้า คือใส่กำไล หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเป็นสายรัดข้อมือ ซึ่งมีอยู่หลายสี แต่ละสีก็จะมีสัญลักษณ์และความหมายแตกต่างกันไป
                ย้อนหลังเริ่มแต่ครั้งเริ่มต้น เมื่อคุณพี่อาร์มสตรอง  เจ้าของแชมป์ตูร์  เดอ  ฟร๊องค์ น่องเหล็กจากมะริกัน เริ่มทำขึ้นเพื่อหาเงินเข้าช่วยมูลนิธิที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง  เพราะก่อนจะมาคว้าแชมป์จักรยานทางไกล ที่ถือว่าหินที่สุดในโลกนั้น
                อาร์มสตรอง ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง ก่อนจะหายแล้วกลับมาแข่งขันก่อนจะคว้าแชมป์ สร้างตำนานไปทั่วโลก
                กำไล อันแรกก็เลยเป็นสีเหลือง เพราบ่งบอกถึงสัญลักษณ์ของอาร์มสตรอง เพราะผู้นำของการแข่งขันจักรยานตูร์  เดอ  ฟร๊องค์ นั้นจะใส่เสื้อสีเหลือง 
                เริ่มจะโด่งดังกันขึ้นเรื่อยๆเมื่อดาราและนักกีฬาดังๆ เริ่มหันมาใส่กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะนักฟุตบอลในเกาะอังกฤษ ลีคขวัญใจคนไทยทั้งหลาย  
                เมื่อภาพดาราหรือนักกีฬา ทั้งหลายออนแอร์บนจอทีวี กระแสความนิยมก็เริ่มพุ่งมากขึ้นเรื่อย  ผู้คนเริ่มหันหาซื้อมาใส่กันมากขึ้นๆเรื่อย
                ไฟไหม้ฟางที่ว่าแน่ๆ เจอกระแสกำไลมหัศจรรย์นี้ ต้องหลบไปนั่งเงียบๆ จากนั้นก็มีกำไลสีอื่นๆออกทยอยออกมารับกระแสความนิยมของผู้คน  สีขาว  สีดำ สีฟ้า แต่ละสีก็มีความหมายแตกต่างกัน
                แต่ที่ฮิตที่สุด ต้องเป็นสีขาว-ดำ ที่ทำเป็น 2 เส้นคล้องกันไว้ หมายถึงการต่อต้านการเหยียดสีผิว 
                ยอดความนิยมของแบบขาว-ดำ นี้พุ่งทะยานแซงหน้ากำไลสีเหลือง ต้นตำรับแบบไม่เห็นฝุ่น
                แต่ตามกฎของดีมานด์และซัพพลาย เมื่อความต้องการมีมาก แฮ่ม.....ของก็ต้องหายาก
                สนนราคาติดป้ายขายที่อังกฤษ อันละปอนด์เศษๆ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 120 บาท
                แต่อะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ กำไลแบบขาว-ดำ วางขายในห้างสรรพสินค้าไทยสนนราคาต้องขยี้ตามองซ้ำ  ราคาขายพุ่งไป 1,300-1,500 บาท ย้ำ..พันสามถึงพันห้า
                โอ้...พระเจ้าช่วย  กล้วยทอด จริงๆ  มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้นะครับ  ต้องโง่ด้วย
                เมื่อราคามันพุ่งขนาดนี้ ถึงแม้อยากได้ขนาดไหน ผมเองก็ขอยอมตกกระแส ยูเทิร์นกลับที่ตั้ง ท่องคาถาต้องมีตังค์ และโง่ด้วยตลอดทาง
                แต่อานิสงส์จากที่ใดไม่ทราบ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมารุ่นน้องที่เป็นแอร์โฮสเตรส บินไปลอนดอน แล้วซื้อมาฝาก
                เห็นปุ๊ป ต้องรีบไปที่มุมห้อง ดึงข้อศอกเข้าหาลำตัว และตะโกนว่า”YEAHHHHHHH”
                ช่วงนี้เพื่อนฝูงหลายคนไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมผมถึงชวนไปเดินเที่ยวห้างบ่อยๆ
                ข้อมือสวยเป็นพิเศษอย่างนี้ ต้องเดินแกว่งแขน เที่ยวห้างอย่างเดียวครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น