วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นักแม่นรู 9/8/2548

 


               วานก่อนนั่งคุยกับจิระวัฒน์  ตันเกษม  เจ้าของฉายาโอ๋  เชียงใหม่ นั่งคุยกันสารพัดเรื่องสุดท้ายก็มาจบที่เรื่องถนัดสนุกเกอร์ กีฬาที่คนไทยเถียงกันมานานว่าจะเป็นกีฬาหรือว่าการพนัน สุดท้ายก็ลงความเห็นเหมือนนานาชาติคือจัดให้อยู่ในประเภทของกีฬา
                ชั่วโมงนี้ในนามบัตรของโอ๋  เชียงใหม่เขียนเอาไว้ว่า ผู้ฝึกสอนนักกีฬาสนุกเกอร์เยาวชนของจังหวัดเชียงใหม่  ฝีไม้ลายมือเลยไม่ต้องพูดถึง ภาษาข้างโต๊ะเรียกว่าเซียน
                โอ๋  เล่าว่าในวงการสนุกเกอร์จะมีฉายาให้เรียกขาน เพื่อจะจดจำง่าย รู้ว่าใครเป็นใคร เช่นต๋อง  ศิษย์ฉ่อยที่เราๆรู้จักกันดี  พอฟังปุ๊ปก็ไม่ต้องถามว่าอาจารย์ของต๋อง ชื่ออะไร.....
                คุณพี่ตุ้ย  ตอแย แห่งหน้าบันเทิงเชียงใหม่นิวส์ ถ้าเผลอไปหยิบไม้คิวเมล่นสนุกเกอร์ จนเก่ง  ฉายาก็คงต้องเป็น ตุ้ย  เชียงใหม่นิวส์ ฉายาเพี้ยนเป็นอย่างอื่นยาก
                แต่ถ้าพื้นที่เชียงใหม่ ใครมีฉายาเชียงใหม่ห้อยท้าย รับรองว่าฝีมือต้องไม่ธรรมดา  เพราะหมายถึงความยิ่งใหญ่ระดับจังหวัด  เป็นตัวแทนของจังหวัดไปปะทะกับจอมคิวทั่วประเทศ
                ฉายาเชียงใหม่ห้อยท้ายจึงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย อย่างน้อยต้องออกคิวได้ประมาณ 6 แดง หมดโต๊ะ ถึงจะเข้าเกณฑ์พิจารณา
                สมัยก่อนตอนที่สนุกเกอร์ถูกถีบเข้าไปอยู่ในซอกมืด เพราะถือว่าเป็นการเล่นพนัน  สายตาที่ผู้คนมองกีฬานี้ค่อนข้างจะรังเกียจว่าเป็นที่ซ่องสุมของบรรดานักเลง นักการพนัน ใครหลุดเข้าในในวังวนอนาคตก็ดูจะมืดมัว
                แต่เชื่อมั้ยครับว่า ถามชายไทย 10 คนรับรองว่า 9 คนครี่ง ชีวิตนี้ต้องเคยสัมผัสเกมสนุกเกอร์
                หลังจากที่ศักดา  รัตนสุบรรณ พ่อมดแห่งวงการสนุกเกอร์ไทย ปลุกผีกีฬานี้ขึ้นมาใหม่ และต่อง  ศิษย์ฉ่อยโด่งดังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในนามของไทยทอร์นาโด วงการสนุกเกอร์ไทยก็ปรับเปลียนรูปโฉมหน้าตากันใหม่หมด 
                จากเดิมที่สถาพบรรยากาศซอมซ่อ กลับกลายเป็นโอ่อ่า สวยงาม ปูพรม ติดแอร์ มีพนักงานใส่ยูนิฟอร์มที่เป็นระเบียบ เรียบร้อย  สร้งภาพพจน์ใหม่ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
                หลังจากไปอบรมโค๊ชมาเสร็จสรรพ โอ๋เริ่มสร้างนักกีฬาเยาวชนป้อนให้กับวงการสนุกเกอร์เชียงใหม่ ถึงตอนนี้หลายคนที่ขัดเกลาสร้างชื่อเสียงระดับประเทศ จนถึงระดับเอเซีย
                โอ๋เล่าให้ฟังว่าความจริงกีฬาสนุกเกอร์ มันมีเส้นผมบังภูเขาอยู่เส้นหนึ่ง เขาเองก็ไม่เคยรู้ แต่หลังจากอบรมผ่านการเรียนรู้การเป็นโค๊ช ก็เริ่มตีโจทย์แตก
การเล่นจากเดิมที่อาศัยสไตล์เดินหน้าแล้วฆ่ามัน ตอนสมัยเป็นวัยรุ่นพออายุมากขึ้นอาการก้มเป็นลงก็เริ่มหดหาย  ก้ต้องอาศัยกลยุทธวิชาที่ได้มาปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่น เพื่อให้ได้ชัยชนะเหมือนเดิม
วิธีคิดแบบหนึ่งที่น่าชมเชยคือ  เมื่อมีความรู้แล้วอย่างหวงวิชา ดูจากประวัติศาสตร์ไทย หลายองค์ความรู้ที่ดีๆของไทยหายสาบสูญไปเยอะ เพราะบรรดาครูทั้งหลายเกิดหวงวิชาในที่สุดวิชาทั้งหลายก็ตายตามตัวครูไป
ถึงตอนนี้เขาอยากเป็นคนอาสาถึงเส้นผมออกเพื่อให้คนเห็นภูเขา กุนซือเลยเป็นคนอาสา นำข่าวมาบอกถึงจอมคิวทั้งหลายว่าใครอยากปรึกษา ให้โอ๋เป็นติวเตอร์ เผื่ออนาคตอาจจะมีจะมีคำว่าเชียงใหม่ห้อยท้ายชื่อ  หยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ 06-6577112 ครับผม
                                                                                 กุนซือ
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น