วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทองคำดำ



………. 30 สตางค์…………..
          ได้ยินประโยคนี้เมื่อไหร่ คนไทยทั้งหลายทั้งปวง จะเสียวสันหลังวาบทุกครั้ง  เพราะนั่นหมายถึงประโยคยอดฮิตของราคาน้ำมันในประเทศไทย
          ทุกครั้งที่มีการขึ้นราคาหรือลดราคา ก็จะเข้าสูตรมาตรฐาน 30 สตางค์ทุกครั้ง ขึ้นก็ขึ้นทีละ 30 สตางค์  เวลาราคาลด ก็ลดทีละ 30 สตางค์ ไม่ขาดไม่เกิน ไม่มีการขึ้นทีละ 50 สตางค์หรือ 1 บาท เป็นอันขาด เพราะเวลาคนเห็นจะคำนวนได้ง่าย ถ้าบอกเป็น 30 สตางค์ วิธีคิดของคนก็จะซับซ้อนออกไปอีกหน่อย
          เช่นราคาน้ำมันเบนซิน 95 ขึ้นจาก 17 บาท เป็น 17 บาท 30 สตางค์ เวลาบอกประชาชน คนทั้งหลายก็จะนึกไม่ค่อยเห็นภาพว่าจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน จะว่าราคาเพิ่มขึ้นมาก แหม.ยังงัยๆก็ยังไม่ถึงครึ่งของหนึ่งบาท  หนึ่งบาทมี 100  สตางค์  ถ้า 30 สตางค์นี่มันกี่เปอร์เซ็นต์หว่า..คิดไปคิดมาปวดหัวเลิกคิดขับรถเข้าปั๊มเติมน้ำมันเต็มถังเหมือนเดิม
          เรื่องน้ำมันเนี่ยต้องเห็นใจรัฐบาล  เพราะไอ้น้ำมันหรือทองคำดำเนี่ย ดันเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจทุกชนิด  จะทำอะไร ค้าขายที่ไหน ต้องมีน้ำมันเข้ามามีเอี่ยวด้วยทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อน้ำมันราคาแพง ขึ้น ก็กระทบกับกิจการทั่วไปแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
          แถมประเทศไทยดันไม่มีน้ำมันเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย น้ำมันทุกหยด ต้องสั่งนำเข้าสถานเดียว พอมาโดน2 เด้ง ค่าเงินบาทตกกราวรูด น้ำมันแต่ละบาร์เรลก็แพงหูฉี่  รัฐบาลทำอะไรก็ไม่ได้มาก ก็ต้องปล่อยให้ราคาสูงขึ้นๆเนื่องจาก บกรับไม่ไหว
          คิดแล้วก็น่าเศร้าสำหรับประเทศไทย ช่วงพฤศจิกายน-มกราคม อากาศแถวยุโรปหนาวเหน็บ ก้ต้องใช้น้ำมันนี่แหละมาช่วงทำความอบอุ่นให้ เมื่อน้ำมันมีความต้องการสูง แต่บรรดาแขกโอเปกทั้งหลายดันสั่งให้ผลินออกมาขายให้น้อย กะว่าตูจะขอรวยในชาตินี้ให้เต็มคราบ คนอื่นบนโลกจะเดือดร้อนอย่างไร ตูไม่สน สุดท้ายน้ำมันก็แพงแบบช่วยไม่ได้ เนื่องจากกฏของดีมานด์แอนด์ซัพพลาย
          นั่งซื้อนอนซื้อน้ำมันแพงตั้งแต่ฤดูหนาวที่ผ่านมา มีคามหวังริบหรี่ว่าพอหมดช่วงหน้าหนาว ความต้องการใช้น้ำมันก็คงจะลดลง น้ำมันเหลือล้นสต๊อกราคาตกวูบเอาๆ ฮ่าๆๆๆรับรองว่าราคากลับมาถูกอีกครั้ง
          ที่ไหนได้ พอถึงช่วงนี้ดันเข้าเป็นหน้าร้อนของอเมริกาเข้าอีก มะริกันชนคนขี้ร้อนเห็นปรอทพุ่งปรี๊ดไปหลายองศา ก็เอี้ยวตัวไปคว้ารีโมทเปิดแอร์ดับร้อนกันจ้าละหวั่น ไม่ต้องถามว่าพลังงานที่ใช้ก็ต้องพึ่งน้ำมันอีกแล้ว  มะริกันมีน้ำมันสำรองแต่ไม่ยอมนำมาใช้เพราะจะเก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นเช่นสงคราม หรือวิกฤติการณ์ที่ไม่คาดฝัน  ก็เลยฮัลโหลสั่งออร์เดอร์น้ำมันจากสิงคโปร์ แฮ่ม……ไทยแลนด์แดนคนยิ้มต้องพึ่งพาน้ำมันจากโรงกลั่นที่สิงคโปร์ พอน้ำมันถูกขายให้มะริกันมากๆเข้า ของก็เหลือน้อย ราคาก็ต้องพุ่งขึ้นอีก
          เฮ้อ……คิดแล้วกลุ้ม  เมื่อไหร่ ก๊าซธรรมชาติก้นอ่าวไทย จะกลายเป็นพลังงานหลักของโลกซักที
                                                                             กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น