วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วัน ไนท์ อิน ปาย ตอน 2 6/12/2549



เมื่อก่อนถามนักท่องเที่ยวว่าขึ้นเหนืออยากไปเที่ยวที่ไหน  ส่วนใหญ่ตอบเป็นภาษาเดียวกันว่าแอ่วเชียงใหม่  ขึ้นเชียงราย ซื้อของแม่สาย นอนหนาวให้สบาย แล้วค่อยโก โฮมเป็นอันจบทริปทัวร์ไทยเที่ยวเหนือ
                แต่ตอนนี้คำตอบเริ่มเบี่ยงเบน  อำเภอเล็กๆอย่างปายกลายเป็นลมกรดน้อย วิ่งแซงเชียงรายจนไม่เห็นฝุ่น  ไทย-เทศ พร้อมหน้านัดกันขึ้นเหนืออย่าลืมไปปาย
                แรงไม่แรง ล่าสุดสายการบินSGA มองเห็นลู่ทางข้างหน้า สั่งเปิดไฟล์ตบินตรงเชียงใหม่-ปาย เอาใจขาเที่ยวทั้งหลาย ดีเดย์คาดว่าน่าจะเป็นกลางเดือนมกราคม ปีหน้า สนนราคาค่านั่งเก้าอี้กลางอากาศประมาณ 25 นาที คนละ 1,450 บาท
                หลายคนตั้งคำถามว่าเสน่ห์ของปายอยู่ตรงไหน คำตอบเทไปที่ความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย น่าสนใจ และสุดท้ายที่สำคัญเงินบาทที่นี่ใหญ่กว่าเงินบาทในเมืองกรุงค่อนข้างจะอักโข
                เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ยกพลรุ่นพี่ รุ่นน้องตะลุยเมืองปาย  บรรยากาศยังคงขลัง จนเกิดอาการหนูไม่กลับหลายครั้ง  ถ้าเป็นสมัยก่อนไม่มีภาระหน้าที่ผูกผัน สงสัยต้องฝากฝังตัวเป็นประชากรเมืองปายเพิ่มอีก 1 คน
                ผมพักที่หลับ  ฝัน ดี เกสต์เฮ้าส์ของปาน  ที่บรรยากาศสวยแบบสุดๆ แถมราคาถูกแบบสุดๆ เดินขึ้นที่พักโดน 2 เด้งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว  เพราะสภาพเหมือนบ้านไทย ไม่มีกลิ่นอายของเกสต์เฮ้าต์
                ห้องพักกระจายอยู่รอบ  โดยมีชานบ้านทรงไทยอยู่ตรงกลาง เป็นลานกว้าง ตรงนี้เองเป็นพิกัดเด็ดที่ทำเอาพวกผม แทบไม่ได้ออกไปเที่ยวรอบอำเภอ
                ก่อนไปมีเสียงแว่วบอกว่าไปเมืองปาย  ต้องไป Be Bob”  เพราะถือเป็นร้านเหล้าชื่อดังของที่นี่  ตกดึกร้านนี้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของนักเที่ยวเมืองปาย  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งมังค่า มาแจมกัน  แจมกัน เดินเข้าไปจะพาลนึกว่าอยู่เมืองนอกเมืองนา 
                แผนแรกถูกลิขิค  นั่งกินชานบ้านนำร่อง  ก่อนขยับขยายไป สัมผัสBe Bob   เข้าข่ายเริ่มจากธรรมชาติก่อนจบลงที่เทคโน แด๊นซ์  อะไรทำนองนั้น
                ตะวันตกดิน  บรรยากาศชานบ้านเริ่มเปลี่ยนจากภาพแม่น้ำปาย ขวางหน้ามีภูเขาทำตัวเป็นฉากหลัง ภาพเริ่มเลือนหาย เหมือนแม่น้ำกับภูเขาจะหมดภาระกิจ  กลายเป็นดวงดาวผุดขึ้นเต็มผืนฟ้า แถมมีพระจันทร์ส่องแสงนวลตา
                ช๊อตนี้บอกจริงๆครับว่าสวยจนเขียนอธิบายเป็นตัวหนังสือไม่ออก
                สโลแกนที่ตั้งไว้ว่าไปเมืองไทย  ต้องไปBe Bob”  เริ่มสั่นคลอน  รุ่นน้องคนหนึ่งเริ่มสะกิดเอวส่งเสียงออกมาว่า ขอเปลี่ยนสโลแกนนิดหน่อยจาก Be  Bob  เป็น   Be  Here ได้มั้ย
                เหมือนนักตระกร้อไทยที่โดนชงลูกมาหวานอยู่หน้าเน็ต  อย่างนี้ต้องฟาดให้ประจักษ์
                โครงการนี้ถูกเปลี่ยนแผน จากเทคโน แอนด์ ฮิบฮอบ เด๊นซ์ เป็นร่ำสุรา  ตาดูดาว  แบบทันที ทันควัน
                คืนนั้นได้ความรู้จากปานเจ้าของเกสต์เฮ้าส์หลายอย่าง  ปานย้ายสำมะโนครัว ชีวิตมาอยู่เมืองปายประมาณสิบกว่าปี  เห็นวิถีชีวิตคนเมืองปาย ตั้งแต่ก่อนดัง จนเปลี่ยนเป็นพลุแตก
                เกล็ดหนึ่งที่น่าสนใจถึงแม้ว่าเมืองปายชั่วโมงนี้ดันมีเซเว่น-อีเลฟเว่น ตั้งอยู่ในเมือง ทำให้หลายคนเริ่มมองแบบหงุดหงิดประเภทตั้งอยู่ผิดที่  ผิดทางแต่ปานเล่าว่าคนที่นี้ ยังคงอนุรักษ์ของดีๆเอาไว้ ส่วนใหญ่จะไม่ใช้บริการจากมินิมาร์ค ชื่อดัง  แต่จะถือตระกร้าไปจ่ายตลาดเหมือนเดิม ไม่ยอมให้ศิวิไลซ์เข้ามาครอบงำ
                ครั้งหนึ่งปานเคยเดินเข้าเซเว่นฯซื้อบะหมี่ คัพ ก่อนกดน้ำร้อน ยืนโซ๊ยอยู่ร้าน  ฝรั่งคนหนึ่งที่เป็นลูกค้า เห้นปุ๊ป ตะโกนด่าปานว่าทำไมยูทำอย่างนี้  ยูใช้บริการร้านนี้ได้อย่างไร เพราะเป็นการยอมรับให้ความเจริญเข้ามาครอบงำวิถีชีวิตดั้งเดิมของปาย
                ฝรั่งยังเดือดร้อนขนาดนี้  นับว่าเป็นฝรั่งที่เข้าถึงชีวิตแบบไทยๆอย่างแท้จริง
                ปานจ้องหน้าลูกค้าฝรั่งแบบเข้าใจในความรู้สึก ก่อนตอบกลับไปสั้นๆว่า
                ธรรมดาตูก็ไม่เคยใช้บริการหรอก  แต่เผอิญตอนนี้มันตีสาม  แล้วตูหิวข้าวมากกกกกกก  โว๊ยยยยยยยย 
                เรื่องนี้ให้ข้อคิดว่าอย่าดูถูกนิทานเรื่องกล่องข้าวน้อย  ฆ่าแม่เป็นอันขาด
                                                                                                                กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น