วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อิทธิฤทธิ์การตลาด 21/4/2548



เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนโน้น วิชาการตลาดถือเป็นวิชาที่เกรดบี เป็นสาขาที่ใครก็ไม่อยากจะเรียนเท่าไหร่ คะแนนสอบเข้าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ถ้าเทียบกับสาขาบัญชี หรือบริหารงานบุคคล  ดังนั้นสาขาวิชาการตลาดสมัยก่อนจึงเป็นศูนย์รวมของเด็กเรียนปานกลางรวมถึงบรรดาเด็กนักกิจกรรมต่างๆ
                ไม่น่าเชื่อว่ามาถึง พ.ศ นี้ วิชาการตลาดกลายเป็นกลไกหลักสำคัญ ที่ช่วยขับดันระบบเศรษฐกิจของประเทศ ผู้บริหารทั้งหลายต้องวิ่งวุ่นเสาะหาความรู้ทางการตลาดมาใส่สมอง ไม่อย่างนั้นอาจเสียเปรียบทางการค้าให้กับคู่แข่งได้
                ถ้าวิชาการตลาดเป็นโต๊ะ ก็มีแค่ 4 ขาหลักๆที่ค้ำเอาไว้ ที่เราเรียกกันติดปากว่า 4 P คือ ผลิตภัณฑ์(product) ,ราคา(price),สถานที่(place)และอันสุดท้าย การส่งเสริมการขาย(promotion)
                แต่สี่อย่างนี้แตกหน่อ ต่อยอดออกไปอีกมากมาย ยิ่งมาถึงตอนนี้การค้าดุเดือดเลือดพล่าน นักการตลาดทั้งหลายก็ต้องหาแนวทางการตลาดแบบใหม่ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด
                เงินโปรโมทสินค้าแต่ละชนิดแต่ละปีๆ มีมูลคามหาศาล หลายบริษัทพยายามสร้างภาพพจน์ส่งผ่านทางสื่อ ให้ลูกค้าจดจดสินค้าของตนเองได้มากที่สุด
                บริษัทโมษณาทั้งหลายก็ต้องรับลูก  ขยายความคิดนี้ออกมาเป็นงานให้ได้
                ช่วงหลังๆมองงานโฒษณาตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะทีวี ที่อัดกันโครมๆ เพื่อชัยชนะเหนือคู่แข่ง  ผู้ชมทั้งหลายก็เริ่มดูโฆษณาสนุกขึ้น ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ที่มีแต่ภาพนิ่งและเสียงบรรยาย  วิวัฒนการของโฆษณาไนไทยโตแบบพรวดๆ
                มีการนำเสนอรูปแบบใหม่ๆตลอดเวลา  จนมาถึงตอนนี้ สูงสุดสู่สามัญมาถึงโฆษณายุค ชะชะช่า ของพี่แอ๊ด คาราบาว
                ใครจะนึกว่าเสียงเพลง ทำนอง 3 ช่า จะสามารถกระชากใจคนไทยจนเรตติ้งวิ่งพรวดเอาๆแบบยั้งไม่อยู่  เริ่มตั้งแต่ พอพี่แอ๊ด  คาราบาว ยกมือร้องเพลงเบียร์ช้าง  คนไทยที่อยู่หน้าจอก็เริ่มขยับแขน ขยับขา
                กดรีโมทไปช่องไหน ก็เห็นแต่มือพี่แอ๊ด ชูขึ้นฟ้าร้องกินแล้วภาคภูมิใจ  เบียร์คนไทยทำเอง
                งานนี้นักโฆษณาบอกว่า อัดโปรโมทคราวนั้นทั้งกระหน่ำราคา 3 ขวดร้อย  ต่อด้วยเหล้าพ่วงเบียร์ และส่งท้ายให้พี่แอ๊ดมาย้ำคิด  ย้ำทำร้องให้ฟังกันทุกช่อง  ทำเอาเบียร์ช้างวิ่งแซงคู่แข่งอย่างเบียร์สิงห์มายืนเป็นเบอร์หนึ่งของไทยจนถึงทุกวันนี้
                ผมกับเพื่อนไปซื้อของที่ร้านขายของชำ พอซื้อเสร็จกำลังจะจ่ายเงิน มีลุงคนหนึ่งเดินเข้าร้าน ส่งเสียงขอซื้อเบียร์ช้าง 3 ขวด พร้อมกับยื่นเงินให้ร้อยบาท
                เจ้าของร้านกระซิบแนะนำว่า ลุงๆลองกิน เบียร์ลีโอ มั้ยหล่ะ อร่อยนะ  ราคาเท่ากับเบียร์ช้าง 3 ขวดร้อยเหมือนกัน
                คุณลุงตอบมานิ่มๆแต่ได้ใจความ ทำเอาผมต้องเดินอมยิ้มออกนอกร้านว่า
                บ่เอา  เพลงมันบ่ม่วน(ฮา)
                ถึงนาทีนี้ใครจะมาเถียงว่า อิทธิฤทธิ์ 3 ช่าไม่มีจริง
                                                                                                                                กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น