วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คืนแห่งความสุข






คืนวันเสาร์ที่ผ่านมานอนดูทีวีอยู่บ้าน มีความสุขแบบ"นัน สต๊อป"ครับ เรียกได้ว่าอยากได้อะไร สวรรค์จัดให้แบบเต็มๆ เริ่มจากนั่งดูเกมอุ่นเครื่องฟุตบอลระหว่างทีมรัก"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล กับ โครตทีมอย่าง บาร์เซโลน่า
       ซึ่งบรรดากองแช่งหงส์แดงทั้งหลาย ต่างฟันธงว่า งานนี้เด็กหงส์จะต้องก้มหน้าเดินเข้าออฟฟิตเช้าวันจันทร์ ชัวรป๊าบบบ
      เพราะโดนทีมบาซาร์ฯถล่มเละแน่ เนื่องจากฝีเท้าห่างชั้นกันเยอะ
ไปๆมาๆ กลายเป็น"คดีพลิก"กลายเป็นหงส์แดง เป็นฝ่ายเดินหน้าแล้วฆ่ามัน ยิงทีมต่างดาวซะ 4-0 ทำเอาบรรดากองแช่งทั้งหลายขยี้ตา สะบัดหน้าเหลียวมองทีวีหลายครั้ง
โดยเฉพาะเด็กผีแดงทั้งหลาย ที่งานนี้คงเหมือนมีมดคันไฟวิ่งเข้าแถวไปเดินสวนสนามในอก
     บางคนถึงกับตั้งข้อสังเกตุว่า หลังจากที่หงส์แดงถล่มทีมบาร์เซโลน่าไปขาดลอย จนอ้าปากค้างกันไปทั้งโลก ทำไมเน็ตในเมืองไทยวิ่งปรู๊ดปร๊าด กันมากกว่าเดิม
เขาเฉลยกันง่ายๆว่า...
        เพราะ เด็กผีแดง พากันปิดคอมพ์ ปิดมือถือ เข้านอนกันไปแถว ประมาณว่า ถ้ายังไม่นอน อาจจะโดนกระเหนะกระเหน ให้"ตะเตือนใจ"กันทั้งแก๊งค์
ส่วนเด็กหงส์ทั้งหลาย รวมทั้งผม ก้อไม่ต้องพูดถึง อารมณ์ดีเพราะมีความสุข ชั่วโมงนั้นยุงกัด ยังไม่ยอมตบ ใช้ปากเป่าไล่ยุงแทน จิตใจงดงามกันทั้งชาวคณะ            เปิดเล่นเฟสฯ เล่นทวิตเตอร์ไปตามเรื่องตามราว เพราะยังอยากดื่มด่ำกับผลสำเร็จของทีมรัก
แล้วมาเจอทวิตเตอร์ของคุณ"แจ็คกี้"แห่งช่อง 7 สี แกทวิตบอกว่า ใครที่ยังไหว ไม่ง่วง อย่าลืมเชียร์"น้องแนน"โสภิตา ธนสาร   แข่งยกน้ำหนักชิงเหรียญนรุ่น 48 กิโลกรัมหญิง ซึ่่งไทยเองก้อมีความหวังเหมือนกัน
       งานนี้เลือดรักชาติเริ่มไหลเวียนอีกหน ไหนๆก้อไหนๆแระ ไม่ต้องหลับ ต้องนอนกันละ ไทยไม่เชียร์ไทยแล้วจะให้ไปเชียร์เขมรที่ไหน
แถมโอลิมปิกคราวนี้ สำนักข่าวเมืองมะกัน มันตบหน้าคนไทยทั้งประเทศเอาไว้ก่อนล่วงหน้าว่า ประเทศไทยมาโอลิมปิกครั้งนี้ ไม่มีทางคว้าเหรียญทองกลับบ้านแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์
      ไม่รู้ว่าไปทำโพลหรือว่าไปดูหมอยิบซีที่ไหนมา ถึงกล้าหยามกันซึ่งหน้าขนาดนั้น
คณะจัดการแข่งขันยกน้ำหนักเค้าเริ่มแข่งในประเภทท่าสแนทช์ก่อน เห็นจอมพลังสาวชาติโน้น ชาตินี้ผลัดหน้ากันออกมายกลูกเหล็ก แต่ไม่ถึงคิวของ"น้องแนน"ซักที
       มาถึงบางอ้อ ตอนหลังว่า สต๊าฟของทีมยกน้ำหนักไทยเรียกน้ำหนักเริ่มต้นการยกครั้งแรกของน้องแนนไว้สูงกว่าทุกคน ดังนั้นเลยต้องยกทีหลังชาติอื่นเค้า
นั่งดูไปเรื่อยๆ แอบเชียร์ชาติโน้นบ้าง แช่งชาตินี้(USA)บ้าง ประกอบการรอคอย สุดท้ายทุกชาติที่เข้าร่วมแข่งขันยกกันหมดแล้ว คนที่ทำยกน้ำหนักได้มากที่สุด ยกได้ 85 กิโลกรัม
แล้วก้อถึงวินาทีแห่งการรอคอยก้อมาถึง น้องแนน เดินออกมา
        พอดูกราฟฟิคผมต้องขยี้ตา เฮ้ย! ยกครั้งแรก น้องแกเรียกน้ำหนักที่ 88 กิโลกรัม เกหมดหน้าตักเลยเหรอ ทุกชาติเค้ายกกันได้สูงสุดแค่ 85 กิโลกรัมเท่านั้น แอบหวั่นใจลึกๆว่า
       ทำไมไม่เรียกซัก 85 กิโล เท่ากับสถิติสูงสุดก่อน เดี๋ยวเผื่อยกไม่ผ่านสามครั้งเนี่ย เรื่องใหญ่เลยนา ตกรอบเอาง่ายๆนะแม่คุณ
แต่ต้องทำใจ ไม่ทำตัวเป็นเซียนข้างจอ พอน้องแนน เดินมาถึงขอบเวที พนมมือ แตะของเวทีนิดนึง ประมาณเอาฤกษ์เอาชัย บอกกล่าวว่าตรูจะมาแล้วนะ
        ยืนเข้าสมาธิก่อนตะโกนขึ้นมาว่า"เอา..เว้ยยยยยยย"
เหมือนมีปรากฏการณ์"เดจาวู" ภาพน้องอร "สู้....เว้ยยยย"ลอยเข้ามาในหัวทันที เอาแล้วงัย ประโยค"...เว้ยยยยยย" ลอยมาให้ได้ยินในโอลิมปิกเมื่อไหร่ เป็นเรื่องเมื่อนั่น
แล้วมันก้อเป็นจริง น้องแนนขยับแขน ยกลูกเหล็กพรวดเดียวขึ้นไปอยู่เหนือหัว แถมยิ้มโชว์อีกต่างหาก(เรื่องนี้ผมคิดเอง น้องแกอาจจะแยกเขี้ยวก้อได้) เสียงสัญญานออดดังลั่น กรรมการให้ผ่านทั้งสามคน
แม่เจ้า..ยกครั้งแรกข่มชาติอื่นซะมิด ถ้าเปรียบเป็นเล่นไพ่ป๊อกเก้า น้องแนนหงายไพ่ออกมาครั้งแรกป๊อกเก้าสองเด้งกินรวบทันที
ไหนๆจะขู่แล้ว ต้องขู่ให้สยบ ยกครั้งที่สอง น้องแนนเรียกน้ำหนักเพิ่มขึ้นไปเป็น  90 กิโลกรัม หลังจากนั้น พิธีกรรมเหมือนเดิม พนมมือ แตะขอบเวที ยืนสมาธิ..."เอา เว้ยยยยยย" ยกอีกโครม เก้าสิบกิโล ก้อลอยขึ้นไปอยู่เหนือหัวทันที
ยัง..ยังไม่จบ การยกครั้งสุดท้าย น้องแนนเรียกน้ำหนักเพิ่มขึ้นไปเป็น 92 กิโล ชั่วโมงนั้น ถ้ากล้องทีวี ไปจับใบหน้านักกีฬาชาติต่างๆที่อยู่หลังเวที แต่ละคนอาจจะชักสีหน้าแบบว่า"น้อง...เมื่อไหร่น้องจะพอ"
"สู้..เว้ยยยยยย" แล้วจอมพลังสาวไทยก็ทำเอาคนไทยเฮลั่น เมื่อยกลูกเหล็กหนัก 92 กิโล ขึ้นไปชูเหนือหัวอีกครั้ง พร้อมแยกเขี้ยวยิ้มสยาม
         เอาเครื่องคิดเลขออกมาบวก ลบ คูณ หาร น้องแนน ยกน้ำหนักแซงหน้าคู่แข่งขันประเภทแรกไปถึง 7 กิโล
งานนี้เหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกลอยเข้ามาในหัวกองเชียร์ไทยทุกคนทันที
พอมาถึงท่าที่สอง คลีน แอนด์ เจิร์ก "น้องแนน"โสภิตา ยังคงยอดเยี่ยมต่อเนื่อง เธอเรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 106 กิโลกรัม ผ่านอย่างสวยงาม
       จากนั้นครั้งที่ 2 "น้องแนน" เรียก 108 กิโลกรัม ก็ยังผ่านอย่างไม่มีปัญหา ก่อนจะปิดท้ายด้วย 110 กรัม แต่คราวนี้โสภิตายกไม่ผ่าน
แต่...แค่นั้นก้อเพียงพอ ที่ทำให้"น้องแนน" โสภิตา ธนสาร เป็นนักยกน้ำหนักคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของไทย ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ต่อจาก อุดมพร พลศักดิ์ ,ปวีณา ทองสุก และ ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล
เช้าวันอาทิตย์ก่อนไปลงประชามติ ผมได้ฟังเพลงชาติไทยก่อนแปดโมงเช้า เป็นเพลงชาติไทยที่เพราะกว่าทุกเช้าที่ผ่านมา เเหรียญทองเหรียญแรกลอยมา อยากจะเขียนจดหมายถึงประธานาธิปดีโอบามาว่า
        " HI..What's up?"
       


กุนซือ