วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สุดยอดแม่ค้าไทย



หลายคนตั้งคามหวังว่า วันหนึ่งข้างหน้าประเทศไทยที่รักของฉันนี่แหละจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เหมือนกับโรงอาหารของโลกแหม….ก็สยามเมืองยิ้มเมืองนี้ ประชาชีค่อนประเทศเป็นเกษตรกร แต่ละปีๆข้าวปลาอาหารที่ผลิตได้เป็นกระตั๊กๆๆ ส่งออกไปขายทั่วโลก
          แต่น่าสงสัยที่สุดคือ คนที่ยากจนที่สุดในประเทศก็คือ   ชาวนา
          ฝรั่งมังค่า ได้ยินแทบไม่เชื่อหู  ยกมือเกาหัวถามทำมั้ย ..ทำไม เมื่อประเทศยูส่งออกพืชผลเกษตรมากมายขนาดนี้ เกษตรกรยูถึงได้ยากจนค้นแค้น  ถ้าเป็นประเทศไอ คนเหล่านี้ต้องอู้ฟู้มากกว่านี้แน่นอน  ถามต่อว่าแล้วจริงๆวงจรชีวิตวงจรธุรกิจของประเทศยูเนี่ยใครรวยที่สุด  เสียงกระซิบเบาๆจากอาเฮียพ่อค้าคนกลางว่า ผง..เองคับ                                                                         ฝรั่งถึงบางอ้อกลไกตลาดบ้านยูเนี่ยใช้ไม่ได้ รัฐฯไร้น้ำยา ปล่อยให้มีการกดขี่ทางการตลาดขึ้นได้ โดยไม่ยอมแก้ไข อย่างนี้ต้องเรียกกรรมของยู 
          พอเศรษฐกิจล่ม มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนตกงาน  โรงงานปิดกันเป็นทิวแถว บริษัทคัดพนักงานออก  สังคมปั่นป่วน  ทุกคนที่เผชิญชะตากรรมต้องดิ้นรนหาทางเอาตัวรอด  ต้องหางานทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเงินใช้จ่าย
          คนไทยหลายล้านคนที่มองหางาน หลายคนเกิดไอเดียว่าจะทำอะไรต่อไปนี้ต้องพยายามลดความเสี่ยงให้มากที่สุด นั่งคิด  นอนคิด ตีลังกาคิด ก็มองออกว่าต้องทำมาค้าขายเกี่ยวกับปากท้องนี่แหละที่เหมาะสมที่สม
          มองออกว่าคนไทยเริ่มใช้จ่ายยากขึ้น  ไม่มีใครใช้สุรุ่ยสุร่ายเหมือนแต่เดิม แต่เรื่องกินนะมันปฏิเสธกันไม่ได้ ทุกคนต้องกิน แต่กินมากกินน้อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผู้คนเลยเฮโลมาเปิดขายอาหารกันเป็นทิวแถว  บ้างก็ขายก๋วยเตี๋ยว บ้างก็ขายข้าว บ้างก็ขายกับข้าวใส่ถุงราคาประหยัดฯลฯ
          ช่วงนี้เริ่มเห็นพัฒนาการของคนไทย ที่ไอเดียไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่อพ่อค้าแม่ค้าเพิ่มมากขึ้น  ยอดขายก็ต้องน้อยลงเป็นธรรมดาของหลักเศรษฐศาสตร์  พ่อค้าแม่ค้ารายใดที่เคยขายดีในอดีตมาถึงตอนนี้ยอดขายวูบเอาๆๆเนื่องจากมีหลายร้านมาแชร์
          นั่งตรองนั่งคิดอยู่หลายคืน คิดออกว่าต้องสร้างแบรนด์เนมให้ดีเพื่อเป็นตัวฉุดลูกค้า  ป้าแม้นขายก๋วยเตี๋ยวมาหลายปี ตั้งชื่อร้านว่าก๋วยเตี๋ยวป้าแม้นขายเท่าไหร่ๆๆยอดขายก็ยังไม่ดี รายได้แค่ประทังชีวิต วันหนึ่งเอาปากกาไปเติมหลังป้ายชื่อเป็นก๋วยเตี๋ยวป้าแม้น(เจ้าเก่า) ลูกค้าแห่แหนมาชิมรสชาดกันแน่นร้าน กินไปปากก็ชมไปว่ารสชาดยังอร่อยเหมือนเดิม ทั้งๆที่บางคนเพิ่มมากินเป็นครั้งแรก ของอย่างนี้เค้าเรียกว่าอร่อยทางใจเพราะเห็นคำว่า(เจ้าเก่า)เห็นคำนี้การันตีได้ว่าต้องมีชื่อเสียงแน่นอน  หรือ………
          สมพิศเปิดร้านข้าวมันไก่ เปิดร้านครั้งแรกในชีวิตแต่ดันตั้งชื่อร้านว่าสมพิศ ข้าวมันไก่  สาขา 3 ผู้คนก็เดินหน้าเข้าร้านสั่งอาหารมาทานกันยกใหญ่   แหมตัวเองร้านเค้าเนี่ยสาขาที่ 3 แล้วนะต้องอร่อยแน่ๆไม่อย่างนั้นไม่ขยายมาถึงสาขานี้หรอก  แต่ดันสะเพร่าลืมถามว่าสาขา1-2 เนี่ยมันมีอยู่จริงหรือเปล่า
                                                                   กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น