วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จึ๋งกรึ๊ย


          ผมนั่งคันไม้คันมือ อยากเขียนมาหลายวันเกี่ยวกับกรณีตำรวจเพิกถอนวีซ่า นักข่าวของนิตรสารฟาร์ อิสเทิร์น อิโคโนมิค รีวิว เนื่องจากตีพิมพ์เนื้อหาที่กล่าวพาดพิงถึงสถาบันสูงสุดของไทย  ที่นั่งรอไม่ยอมเขียนเพราะในใจท่องไว้ว่าตูจะดูใจมัน ว่านิตรสารฟาร์ อิสเทิร์น อิโคโนมิค รีวิว จะยอมขอโทษต่อคนไทยหรือปล่าว หลังจากที่เกิดเรื่อง ออกมาแค่ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแต่ไม่ขอโทษ
          ล่าสุดตอนนั่งปั่นต้นฉบับนิตรสารฟาร์ อิสเทิร์น อิโคโนมิค รีวิวเอาหลังไปชนฝาเมื่อไหร่ไม่ทราบ ก็เลยจะทำหนังสือขอโทษต่อคนไทย โดยจะนำจดหมายเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนคนไทย ถือว่าเป็นการขอโทษอย่างเป็นทางการ 
          เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทของคนไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ  สื่อมวลชนต่างชาติจะได้รู้ว่าขอบเขตของตนอยู่ตรงไหน ผมไม่ว่าหรอกครับที่สื่อต่างชาติจะอ้างว่าเสรีภาพในการนำเสนอ   เพราะอาจจะเคยเขียนด่า  เขียนนินทาควีนส์ หรือประธานาธิปดีของตนบ่อย ถึงบ่อยมาก จนถือเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องนี้ต้องเข้าใจและเห็นใจว่า บ้านเค้า เมืองเค้า ว่าสถาบันกษัตย์ของเค้าไม่ใช่ศูนย์รวมจิตใจเหมือนกับบ้านเรา
          เราเข้าใจในระดับหนึ่งว่า วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อาจจะทำให้รอยหยักในสมองของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปได้ จนไม่รู้ว่าสิ่งใด ควรหรือไม่ควร  แต่ก็อยากเอาเก้าอี้ปาทีวีเมื่อเห็นอีตารอดนีย์ ทาสเกอร์ กับอีตาฌอน  วิลาเลียม คริสพิน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทั้งคู่อยู่ในเมืองไทยมานาน  คนนึง 20 กว่าปี อีกคน 7 ปี เข้าใจวัฒนธรรมของคนไทย  ความรู้สึกของคนไทย  ตนทั้งคู่ก็รักและนับถือสถาบันสูงสุดของไทยไม่น้อยไปกว่าคนไทย ฟังถึงตอนนี้ผมอยากตะโกนถามอยู่ที่หน้าทีวีว่า ถ้ารู้แล้วเอ็งเขียนทำซ้นTEENอะไรไม่ทราบ
          ตั้งปุจฉาถามว่า ถ้าผมไปนั่งเขียนคอลัมน์อยู่ในวอชิงตัน ดีซี แต่ดันเขียนด่าบุชน้อยว่าเลวอย่างนั้น เลวอย่างนี้  แตกต่างสิ้นเชิงกับคนดีของฉัน บิล  ลาเดน รับรองว่าไม่เกิน 24 ชั่วโมง กระเหรี่ยงอย่างผม คงโดนถีบหลุดออกมานอกประเทศอเมริกาแน่  ดังนั้นรัฐบาลมะริกัน ไม่ต้องมาออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับกรณีนี้หรอกครับ  เพราะถ้าจะแสดงความเป็นห่วงกรุณา ก้มหน้ามองดูตัวเอง เสียก่อนว่าทำได้หรือไม่ ไม่ใช่คนของตนเองเดือดร้อนก็ออกมาโวยวายทันที เลยต้องโดนประโยคเจ็บๆของท่านทักษิณว่า อธิปไตย ของใครของมัน คล้ายๆเหมือนกับจะบอกว่า  อยู่ดีๆอย่าไปจับเสือมาใส่เกือก อะไรทำนองนั้น
          ปุจฉาถามต่อว่าถ้ากุนซือไปเจอนักข่าวของนิตรสารฟาร์ อิสเทิร์น อิโคโนมิค รีวิวทั้ง 2 คนจะทำอย่างไร  ในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนเหมือนกัน แตกต่างกันแค่เชื้อชาติ ผมคิดออกเพียงแค่ว่า ถ้าสมมุติว่าประโยคที่เป็นคำด่าในโลกทั้งหมด เอามารวมกันแล้วได้คำศัพท์ใหม่คือคำว่าจึ๋งกรึย
          ผมจะเดินเข้าไปสะกิดเอวทั้ง 2 คนว่าHI!รอดนีย์   HI!ฌอน  พวกเอ็ง จึ๋งกรึย  ว่ะ
                                                                   กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น