วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ย้อนรอย..คนข่าว(ฉบับครบรอบเชียงใหม่นิวส์ 11 ปี)

 
       ว่ากันว่า"ช่วงเวลาที่มีความสุข  นาฬิกาจะเดินเร็ว"  บางครั้งกระพริบตาไม่กี่ที ช่วงเวลาของความสุขก็ผ่านไปรวดเร็วเหลือเชื่อ  เพราะความสุข ทำให้คนลืมนึกถึงเวลา
           นาฬิกา ที่เชียงใหม่นิวส์ เดินเร็ว   เร็วจนเหลือเชื่อ
           11 ปี  ถ้าเป็นเด็ก  กำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้
            แต่..11 ปีของคนในวงการหนังสือพิมพ์ ไม่ถือว่าเป็นเด็ก  เพราะ 11 ปีในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นการอยู่อย่างลำบาก  อุปสรรควางขวางอยู่ข้างหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจที่พังครืน จนทำให้บรรดาสปอนเซอร์ ที่ลงโฆษณา หดหาย  แถมวัตถุดิบในการผลิตถีบตัวขึ้นอีกหลายเท่า
          ต้องกัดฟัน    ต้องดิ้นรนในจุดอับแบบ  Survival 
         ถึงวันนี้ เชียงใหม่นิวส์กำลังก้าวขึ้นปีที่ 12
         พนักงานทุกคนยังยิ้มแย้ม มีความสุข
         บอกแล้วไง.......นาฬิกาที่นี่ เดินเร็ว
..................................................................................................................
         ถอยหลังไป 9 ปีก่อน ผมเดินตัวลีบเข้ามาทำงานในกอง บ.ก เป็นวันแรก  โดยการันตีจากแข็งแรงคุณพี่ ตุ้ย  ตอแย 
        จำได้  วันแรก ใจสั่น คิดไม่ออก  บอกไม่ถูก กลัวไปหมด ประสา"คนทำงานไม่เป็น"
        โชคดี  ไม่ต้องเจอ บ.ก ใหญ่ ธานี  สุวัฒนา 
        ท่าน บ.ก ไปเที่ยวลาว 
      รอดตัวไป...... อาศัยช่วงเวลาก่อน บ.ก กลับ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
      เผื่อจะได้อยู่รอดต่อไป  ไม่โดนไล่ออกก่อนกำหนด
 ถึงวันนี้  ยังคงสงสัย
 ถ้า บ.ก ไม่ไปเที่ยวลาว  จะได้อยู่ถึงตอนนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้
 ฟ้าลิขิต   บอกได้คำเดียวว่า......ฟ้าลิขิต
................................................................................................................
 เข้ามาทำงานเป็นนักข่าวช่วงแรกๆ  ในนามของ เชียงใหม่นิวส์  เจอเนเรชั่น ที่ 3  เงยหน้าแต่ละที มีแต่รุ่นพี่เต็มไปหมด  คุณพี่มังฉงาย ,ทัดดาว,ตุ้ย  ตอแย,ฟ้าฮ่าม ฯลฯ แต่ละคน"กระดูก"ไม่ต้องพูดถึง
 ถ้าเป็นกอล์ฟ ก็เฮนดิแค๊ป 0 
 ถ้าเป็นสนุกเกอร์  ก็ต้องต่อให้คนอื่น 3 แต้มกา
 ถ้าเป็นฟุตบอล เล่นในบ้าน นอกบ้านก็ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง  ขาว
 รุ่นราว คราวเดียวกัน ที่พอคุยกันได้บ้างก็มีแต่ "ตากล้องนู๊ด" ทวน  ทรนง
        รุ่นพี่ทุกคนเปรยให้ฟังเสมอว่า อาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่แปลก  เงินเดือนน้อย  เวลาทำงานไม่แน่นอน เกิดข่าวที่ไหน นักข่าวก็ต้องวิ่งโร่ไปทำงาน
     แต่"รายไหน รายนั้น  เวลาเข้ามาในวงการเข้ามาง่าย  แต่  ออกยาก"เรียกว่า ใครหลงเข้ามาทำอาชีพนี้ มักจะติดมนต์เสน่ห์ ไม่ยอมเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น  บางรายเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นเพราะเงินตอบแทนสูงกว่า หรืออาชีพใหม่ท้าทายกว่า แต่พอมานั่ง"เจาะใจ" สุดท้ายก็ยังคิดถึงความเป็นนักข่าวอยู่ดี
     ย้อนกลับไปตอนเริ่มก่อตั้ง หนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ ออฟฟิคแรก เดิมทีตั้งอยู่หลังโรงแรม เชียงอินทร์ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น
 น่ารัก  น่าชัง
 ชั้นบนเป็นกองบ.ก  ห้องคอมพิวเตอร์ กับห้องเลย์-เอาท์
 ชั้นล่างเป็นฝ่ายบัญชี และฝ่ายผลิต
 สะกิดเอวถามบรรดา พี.อาร์ ของแต่ละโรงแรมสมัยก่อน  ไปส่งข่าวที่ไหน ต้องระวังตัวมากที่สุด 
 คำตอบไม่คลาดเคลื่อน..........เชียงใหม่นิวส์
 หลายคนสงสัย ตั้งปุจฉา..... ทำไม!ต้องระวังตัว    วิสัชนา......เพราะบันไดขึ้นกอง บ.ก ของเชียงใหม่นิวส์ ค่อนข้างชัน   ถึง  ชันมาก
 อุปมาได้ว่า เดินขึ้นบันได ต้อง เดินก้มหน้าสถานเดียว  เงยหน้าไม่ได้ เดี๋ยว.....หงายหลัง
 พี.อาร์ ส่วนใหญ่ หน้าตาสวย แต่งตัวนำแฟชั่น ส่วนใหญ่ใส่กระโปรงสั้น และ แคบ
 ส่งข่าวแต่ละครั้ง ต้องใช้ความพยายาม เดินตะแคงขึ้นบันได หยิบความสามารถของกายกรรมเซี่ยงไฮ้ เข้ามาประยุกต์  ทรงตัว ก้าวอย่างมั่นใจ เพื่อให้ถึงที่หมาย......กอง บ.ก
 ขาขึ้นที่ว่าลำบาก ยังวิบากไม่เท่ากับขาลง เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกกลายเป็นปัจจัยเสริม ให้งานส่งข่าว สำเร็จไม่ง่าย ดังพลิกฝ่ามือ
 นึกถึงเมื่อไหร่  สงสาร พี.อาร์ เมื่อนั้น
............................................................................................................
 เขียนคอลัมน์ครั้งแรก หลังจากทำงานได้ 3 ปี
 คุณพี่"ฟ้าฮ่าม"เดินมาบอกว่าให้เริ่มเขียนลงคอลัมน์"สนามความคิด"
 โห......ชื่อคอลัมน์   น่ากลัว  น่ากลัว
      นั่งอยู่หน้าแป้นพิมพ์ดีด เกือบชั่วโมง เกิดอาการ"สมองตัน" ตามประสา"มือใหม่  หัดขับ"ความกดดัน  ถั่งโถม ไม่ยอมหยุด
     นึกไม่ออกว่าเมื่อไหร่จะมี"ความคิด"อยู่ใน "สนาม"นี้ซักที
     สุดท้ายด้วยความมุ่งมั่น เขียนออกมาได้ 1 ชิ้น ขนาด 1 A4 ดึงออกมาจากเครื่องพิมพ์ดีด เพื่อตรวจทานก่อนส่งให้ห้องคอมฯ  อ่านเสร็จ ความรู้สึกเหมือ มีคนมาท่องอาขยานให้ฟัง
     แถมตัวหนังสือก็ติดกันเป็น"มดเข้าแถว"เพราะไม่ค่อยย่อหน้า  ตั้งประเด็นได้ก็เขียนพรวดๆๆๆๆ ม้วนเดียวจบ  ใครอ่านเหมือนกับกำลังกลั้นหายใจวิ่ง 400 เมตร  ไม่มีจังหวะพัก  จังหวะเบรก
     อ่านแล้ว...เหนื่อย
     สงสารคน ที่ผ่านมาอ่านคอลัมน์
       นั่งปลอบใจตัวเอง ไม่เป็นไร อีกหน่อยคงดีกว่านี้  บอกแล้วไง"มือใหม่ หัดขับ"
    ขับเก่งเมื่อไหร่  จะเดินขึ้นอำเภอ ขอแจ้งเกิดอีกครั้ง
...............................................................................................................
              วันที่ 28 มีนาคม วันเกิด ผ.อ ได้ฤกษ์ย้ายรังใหม่ จากเดิมบ้านไม้2ชั้น เป็นตึกใหญ่หลายคูหา โอ่อ่า   เครื่องไม้ เครื่องมือมากขึ้น แต่ละฝ่าย แต่ละแผนก แยกเป็นสัดส่วน ชัดเจน
         ผมเดินยืดอกขึ้นห้อง กองบรรณาธิการ ห้องใหม่  กว้างขวาง โต๊ะใหม่  เก้าอี้ใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด โอ้.......นิวไลฟ  รีพอร์ตเตอร์
       จากเสียงเครื่องพิมพ์ดีด ที่เคยดังระรัวตอนชั่วโมงเร่งด่วน (ปิดต้นฉบับ) กลับกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ วางเรียงรายอยู่แทนที่  พร้อมกับออนไลน์ อินเตอร์เน็ต เอาไว้หาข้อมูลกันทุกเครื่อง
      ไม่มี......ไม่ได้  เดี๋ยวตกยุค
       ผู้คนจะตราหน้าว่าเป็น นักข่าวเชย ......ไม่มี อีเมล์ เป็นของตัวเอง
.........................................................................................................
 หลายคนถาม  11 ปีที่ผ่านมาเชียงใหม่นิวส์ พัฒนาเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
 คำถามนี้ ตอบได้  แต่.....ตอบไม่ได้
 เพราะคำตอบที่ถูกต้อง  คุณๆผู้อ่านต้องเป็นคนตอบเอง
 ภาษาตระกร้อ  เค้าเรียกว่า"ชงเอง  ตบเอง"
 ถ้าคุณๆบอกว่าดีขึ้น     เรา.........น้อมรับ
 ถ้าคุณบอกว่าดีลง(ตรงข้ามกับ ดีขึ้น)    เรา..........น้อมฟัง
       เพราะคำติชม ของคุณๆผู้อ่านทุกคน เป็นมือที่ช่วยผลัก  ช่วยดัน ให้เชียงใหม่นิวส์โตขึ้นเรื่อยๆ
       เปลี่ยนคำถามบ้างดีกว่า
       ถ้าถามว่า    ผ่านมา 11 ปีมาถึงชั่วโมงนี้ชีวิตการทำงานในเชียงใหม่นิวส์ เป็นอย่างไรบ้าง
        ต้องขออนุญาติคุณๆชี้ที่นาฬิกา .......... มันยังเดินเร็วเหมือนเดิมครับ

                                                                                                     กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น