วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คืนหนึ่งกับ ไมเคิล ตั๋ง



                 วันศุกร์ที่ผ่านมา ผมและพลพรรคคนรักงานสังสรรค์ พาเหรดเข้าร้านเดอะ กู๊ดวิว ที่มีสโลแกนห้อยท้ายว่า เดอะ กู๊ดฟิลลิ่ง  เป้าหมายหลักที่บริโภคน้ำเมา ส่วนภารกิจรองมีคอนเสิร์ต ไมเคิล ตั๋ง เป็นของแถม
                คราวแรกชื่อไมเคิล ตั๋ง ไม่ค่อยจะคุ้นหู แว่วๆเหมือนจะได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง เห็นภาพรางๆว่า แต่งตัวเหมือนไมเคิล แจ๊คสัน แล้วร้องกับเต้นเหมือนกับต้นฉบับ  เรตติ้งความสนใจของชาวคณะเลยอยู่ประมาณ 4.5-5  อธิบายกว้างๆว่า ดูก็ได้  ไม่ดูก็ได้  ..........มิได้นำพา
                พอคอนเสิร์ตเริ่ม ค่านิยมเริ่มเปลี่ยน ทั้งโต๊ะเริ่มหันมาสนใจกับดนตรีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโชว์ของไมเคิล ตั๋ง สำหรับของผู้ที่ไม่เคยสัมผัสนั้น รับรองว่าแต่ละคนจะนึกไม่ออกว่าออกมาแนวไหน
                เขียนเป็นนิยามได้ว่า เหมือนกับสภาโจ๊ก ภาคดนตรี 
                คืนนั้นลูกค้ากู๊ดวิว เหมือนได้ดูคอนเสิร์ต รวมมิตรดนตรีไทย-เทศ  เพราะแต่ละคนที่ออกมาร้อง  มาเต้น นั้นนอกจากจะรูปร่าง ลักษณะเหมือนกับศิลปินดังๆแล้ว น้ำเสียงยังเหมือนอีกด้วย ประมาณว่า ถ้าหลับตาอาจจะพาลนึกว่าตัวจริง เสียงจริง ขึ้นเวที
                คืนนั้นรวมคร่าวๆ มีตัวละครโผล่ออกมาให้ผู้ชมได้สัมผัสหลากหลายค่าย ทั้งไทย-เทศ ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล แจ๊คสัน/  เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ / สกอร์เปี้ยน/ อ๊อด คีรีบูน/ เจนนิเฟอร์ คิ้ม  /ติ๊ก ซีโร่/พี่ป้อม อัศนี โชติกุล/ ก่อนจะปิดฉากเป็นพี่แอ๊ด คาราบาวและเทอรี่ เมฆวัฒนา
                ผมนั่งอมยิ้มตลอดโชว์ เพราะสนุกและตลก ในคราวเดียวกัน ไม่อยากเชื่อว่าแต่ละคนของทีมงานไมเคิล ตั๋ง จะเลียนเสียง เลียนพฤติกรรมได้ดีถึงขนาดนี้
                โดยเฉพาะทีมงานคนหนึ่งที่เลียนแบบพี่ป้อม อัศนี  ตอนเดินออกมา หลายคนอ้างปากค้างนึกว่า พี่ป้อมตัวจริง ขึ้นมาเซอร์ไพซส์ เพราะเหมือนมาก จนต้องบอกว่าเหมือนยังกับแกะและแพะปนกัน
                ยิ่งท่าทาง น้ำเสียง การลูบผม ยกมือ ฯลฯ โห.....ถ้าพี่ป้อมมาดูด้วย รับรองจะพาลนึกว่า นั้นเงาของฉันหรือเปล่าที่อยู่บนเวที  พอมาถึงช่วงท้าย ที่ปิดฉากด้วยวงคาราบาว โดยไมเคิล ตั๋ง โชว์ความสามารถอีกครั้งคือ แบ่งร่างออกเป็น 2 ซีก ซีกหนึ่งเป็นที่แอ๊ด คาราบาว ส่วนอีกข้างแต่งเป็น เทอรี่ เมฆวัฒนา
                งานนี้ขำก๊าก กันทั้งร้าน เพราะเวลาร้องท่อนที่แอ๊ด ซีกร่างที่แต่งเป็นแอ๊ด คาราวบาว ก็จะหันมาให้ผู้ชมดู  พอถึงช่วงฮุค มีการร้องรับโดยเทอรี่ ก็กระโดดหันอีกข้างที่เป็นเทอรี่ ออกมา แล้วน้ำเสียงจากแอ๊ด คาราบาว ก็เปลี่ยนเป็นเทอรี่ ทันที
                เห็นอย่างนี้ ต้องยกนิ้วชูให้ว่า นายแน่มาก 
                ถือเป็นคอนเสิร์ตที่เปี่ยมสุข ในแนวไม่ได้นัดหมาย 
เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ จริงๆครับ
                ช่วงเศรษฐกิจแย่ บ้านเมืองมีแต่ความขัดแย้ง มองไม่เห็นอุโมงค์ทางออก ผมว่าบางที โชว์ดีๆแบบไมเคิล ตั๋ง ก็ช่วงให้ชีวิตมีความสุขขึ้นมาบ้าง  ดีกว่าใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเครียดเหมือนกับทุกวันนี้
                                                                                                                กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น