เมื่อวานคุยค้างเกี่ยวกับการจัดอันดับสนามบินทั่วโลก ซึ่งผลออกมาปรากฏว่า สนามบินแถบอาเซียน และเอเชียนั้นกวาดรางวัลไปเกือบหมด ส่วนสนามบินยอดแย่นั้นกลับกลายเป็นสนามบินของบรรดาประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศษ
เรียกว่า เรื่องบริการแล้ว ฝรั่งหัวทอง แพ้คนเอเชียหัวดำแบบหลุดลุ่ยครับ
เหลียวกลับมามองสนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทยบ้าง หลังจากเปิดตัวพร้อมค่าใช้จ่ายในการสร้างหลายแสนล้าน ตั้งเป้าที่จะผงาดขอเป็น”ฮับ”หรือศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเซีย ผู้บริหารสนามบินชั่วโมงนั้นไม่ขออะไรมาก ขอแค่ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของเอเซีย พร้อมทั้งเขี่ยเบอร์หนึ่งของโลกอย่างสนามบิน เซฟ ลัก ก๊อก ของฮ่องกง และชางงี ของสิงคโปร์ ไปดมฝุ่นอยู่ข้างหลัง
แต่หลังจากการเปิบพิสดาร ของนักการเมืองไทยแล้ว ผลสำรวจล่าสุด อันดับที่ได้ของสนามบินสุวรรณภูมิคือ”ปานกลาง” เทียบคะแนนเฉลี่ยก็แค่ 3 ดาว ซึ่งหมายความว่าบริการและผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานตามค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการบิน แต่ยังมีบางจุดที่ถือว่ายังบกพร่องอ่อนแอหรือบางครั้งต่ำกว่ามาตรฐาน
แต่หลังจากการเปิบพิสดาร ของนักการเมืองไทยแล้ว ผลสำรวจล่าสุด อันดับที่ได้ของสนามบินสุวรรณภูมิคือ”ปานกลาง” เทียบคะแนนเฉลี่ยก็แค่ 3 ดาว ซึ่งหมายความว่าบริการและผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานตามค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการบิน แต่ยังมีบางจุดที่ถือว่ายังบกพร่องอ่อนแอหรือบางครั้งต่ำกว่ามาตรฐาน
โดยจุดที่อ่อนแอของสนามบินสุวรรณภูมิมีถึง 10 จุด ได้แก่ 1.เว็บไซต์บริการข้อมูลข่าวสาร 2.ระบบการต่อเครื่องบินของผู้โดยสาร 3.เวลาและระยะทางในการเดินทางไปถึงประตูขึ้นเครื่องบิน 4.ป้ายบอกทิศทางรอบสนามบิน 5.ระยะทางที่ผู้โดยสารต้องเดินทั้งตอนขาเข้าและการต่อเครื่องบิน 6.ระยะเวลาในการรอรับกระเป๋า 7.เครื่องเอทีเอ็มสำหรับกดเงินสด 8.ศูนย์ธุรกิจหรือบริเวณทำงาน 9.สิ่งอำนวยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โดยทั้ง 9 จุดนี้ได้รับคะแนนเพียง 2 ดาว ซึ่งหมายถึงแย่
ส่วนจุดที่แย่ที่สุดของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยได้รับคะแนนเพียง 1 ดาว คือ สถานที่นัดพบสำหรับผู้โดยสารและผู้มารอรับ-ส่ง เรียกว่าสื่อสารไม่ดี รับรองว่าทั้งผู้โดยสารและคนมารับ เดินหลง งงเป็นไก่ตาแตกในเทอร์มินอลนี่แหละครับ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จุดที่สุวรรณภูมิได้รับคะแนนสูง 4 ดาว ประกอบด้วย 1.ความเป็นมิตรของพนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2.กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง 3.จำนวนเก้าอี้นั่ง 4.ระบบการสแกนกระเป๋าเพื่อตรวจหาอาวุธ 5.จำนวนแท็กซี่บริการ 6.ความสะอาดของอาคาร 7.วิวการมองเห็นเครื่องบินและรันเวย์ 8.แสงธรรมชาติภายในอาคาร 9.สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและสถานที่เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก 10.คุณภาพการบริการของพนักงานตามร้านค้าภายในสนามบิน 11.ความหลากหลายของร้านอาหารและภัตตาคาร 12.ราคาอาหารและเครื่องดื่ม 13.การให้บริการของพนักงานในร้านอาหารและภัตตาคาร 14.สถานที่เล่นสำหรับเด็ก
สำหรับคนไทยที่ต้องเดินทางบ่อยๆ อาจจะเจอบรรดาคนฮ่องกง หรือคนสิงคโปร์ เย้ยหยันว่า สนามบินของเขาได้แชมป์และรองแชมป์ ในขณะที่ของเมืองไทยที่คุยฟุ้งเมื่อก่อน มาถึงตอนนี้กลายเป็นสนามบินธรรมดาๆไม่โดดเด่น ขอแนะวิธีแก้ลำครับ เพราะถึงแม้จะลงทุนไปมาก และคุณภาพไม่ได้ดั่งใจ แต่ในความเป็นสนามบินของคนไทย ถึงแม้ไม่ได้แชมป์ แต่ตามประสาคนไทย แต่เราสามารถคุยได้ว่า ขึ้นชื่อว่าคนไทยแล้ว มักจะทำอะไรที่มันเป็น”ที่สุดในโลก”อยู่เสมอ
ประมาณ “ไม่ได้ถ้วย ก็ขอแค่เสียงฮือฮา”
เริ่มจาก หอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 132.2 เมตร พร้อมระบบการนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย ,โรงซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดพื้นที่จอดเครื่องบินรวม 27,000 เมตรสามารถรองรับเครื่องบินขนาดยักษ์แอร์บัส 380 ได้พร้อมกัน 3 ลำ (แต่ตอนนี้ การบินไทยยังไม่มีซักลำ) ,ล็อบบี้ของโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร มีห้องพักถึง 600 กว่าห้อง เป็นบริเวณล็อบบี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แถมยังเป็นสนามบินที่ทำสถิติใช้ระยะเวลาการก่อสร้างยาวนานที่สุด ถึง 45 ปีและมีข่าวฉาวโฉ่เรื่องการโกงกิน คอรัปชั่นมากมาย จนสร้างเป็นหนังมหากาพย์ เรื่องยาวได้เรื่องหนึ่ง
อ้อ! ลืมไป เรื่องสุดท้ายนี่ กระซิบเบาๆก็ได้ อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวต่างชาติมันจะงง ว่าสถิติที่สุดในโลกอันสุดท้ายจะสร้างไปทำแมว....อาราย
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น