วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มาม่ากับเด็กหอ 17/10/2550


               เมื่อก่อนดัชนีวัดความเก่งเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาล เขาดูกันที่ราคาของไข่ว่า ฟองละเท่าไหร่  ถ้าราคาไข่แพงขึ้นมาเมื่อไหร่  รับรองหนังสือพิมพ์ขึ้นพาดหัวว่า ราคาไข่พุ่งกระฉูดทันที  เพราะไข่เป็นอาหารก้นครัว ที่ต้องมีติดห้องครัวไว้
                จะเอาต้ม  จะเจียว จะทอด ก็ทำได้หลายหลาก เหมาะกับปากคนไทยนัก
                ดังนั้นเครดิตของรัฐบาลชุดที่ผ่านๆมา  ดัชนีราคาไข่  กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องบริหารให้เหมาะสม  ถูกได้ แต่ห้ามแพง เป็นเด็ดขาด เพราะอาจจสะเทือนถึงสถานภาพของรัฐบาลที่อาจจะง่อนแง่นได้
                ถ้าไข่ไก่ เป็นอาหารประจำครัวไทย  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าก็ต้องเป็นอาหารสามัญประจำเด็กหอพัก  เนื่องจากชีวิตของเด็กหอที่เป็นนักเรียน นักศึกษานั้น ต้องอยู่ห่างบ้าน เงินทองย่อมไม่ลื่นไหล เหมือนอยู่กับพ่อแม่
                ดังนั้นจึงต้องพยายามปรับชีวิตให้เข้ากับธรรมชาติของเด็กหอ คือ หิวเมื่อไหร่  เงินหมด  ไม่ต้องกลัวอด  แค่ฉีกซองมาม่า
          เพื่อนผมคนหนึ่งเคยเพื่อนๆฟังในวงสนทนา ว่าบ้านเขาไม่เคยซื้อมาม่า หรือ ยำยำ เก็บไว้เลย ทุกคนในกลุ่มตะโกนแบบไม่เชื่อหู ว่าเป็นไปได้อย่างไร  ที่ในครัวของคนไทยจะปราศจากบะหมี่สะเร็จรูป 
                ชีวิตของคนไทย เลยเกี่ยวพันกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมานมนาน จนกลายเป็นความเคยชิน ใครไม่เคยกิน กลายเป็นเรื่องประหลาดของสังคมไทย
          สมัยก่อนสงครามการค้าระหว่างบะหมี่สำเร็จรูปในเมืองไทยนั้น ห้ำหั่นกันอยู่แค่ 2 ค่ายคือ ยำยำ กับ มาม่า  ต่างฝ่ายต่างขุดกลยุทธทุกอย่างเพื่อช่วงชิงตลาดมาเป็นของตนเองมาให้มากที่สุด
                แต่สุดท้าย มาม่า ก็คว้าหัวปลาไปกิน เป็นยักษ์ใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในประเทศไทย  โดยมีมาม่า หมูสับ เป็นขุนพลหลัก ที่ทำให้ยำยำต้อง พ่ายศึกในครั้งนี้  วันหลังจะหยิบเรื่องราวสงครามระหว่าง 2 ค่าย มารับใช้ รับรองว่า สนุก ตื่นเต้น ชิงไหวชิงพริบ กันทุกหยด
                วันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึงนี้  บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า  บอกว่าจะมีการปรับราคามาม่า จากซองละ 5 บาท มาเป็น ซองละ 6-7 บาท
                ข่าวนี้เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร เหมือนกับสมัยก่อนที่ราคาไข่แพง  จนผู้คนออกมาบับไล่รัฐบาล ข้อหาบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน  ฝ่ายรัฐบาลกับกรมการค้าภายใน ก็รู้ดีว่า ถ้ามาม่า ขึ้นราคาเมื่อไหร่  รับรองว่า หูร้อนถึงหูชา โดนชาวประชาด่าทั่วไทยแน่
                พยายามเบรก พยายามอ้อนวอน แต่คาดว่างานนี้คงจะไร้ผล คนไทยสาวกมาม่าทั้งหลาย เตรียมควักเงินเพิ่มแน่  กรมการค้าก็กระซิบบอกว่า อย่าพึ่งขึ้นราคาได้มั้ยอ่ะ  ขอราคาเดิมแต่ ลดปริมาณลง
                บอสใหญ่ ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ บอก ไม่ได้  เพราะลดปริมาณลง รับรองหนึ่งซองไม่มีทางอิ่ม  คนซื้อก็ต้องกิน 2 ซอง ซึ่งเป็นการผลักภาระไปให้ผู้ซื้อเพิ่มอีก  ขอขึ้นราคาอย่างเดียว ตามสภาพความเป็นจริงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น  พร้อมกับทิ้งทวนว่า มาม่า ไม่ได้ขึ้นราคามาตั้ง 10 ปีแล้ว  ทั้งหมด ทั้งปวงก็สมเหตุ สมผลด้วยประการฉะนี้แล
                งานนี้ผมว่าจะพึ่งกระพริบตานะครับ  เพราะคู่แข่งอย่างยำยำยังสงวนท่าที  เพราะอาจจะมองดูว่าเป็นโอกาสดี ถ้าจะชิงส่วนแบ่งตลาดคืน ถ้ายังกล้ำกลืนขายราคาเดิม
                อย่าลืมว่า กรณีศึกษาแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว สมัยเบียร์สิงห์ขึ้นราคา  แต่เบียร์ช้างดันสวนกระแส ลดกระหน่ำขาย 3 ขวด 100   จนในที่สุดแชมป์ยอดขายเบียร์ในไทยก็ต้องย้ายจากเบียร์สิงห์มาอยู่ที่เบียร์ช้าง จนถึงปัจจุบันนี้
                                        กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น