วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คนไม่กินผัก 12/12/2550



           ถ้าจับคน 10 คนมายืนเรียงแถว  รับรองว่า 9 คนครึ่งจะต้องเคยอยู่ในชมรมคนไม่กินผัก  โดยเฉพาะตอนเด็กๆ ผักเป็นสิ่งที่ต้องห้ามของบรรดาเด็กๆทั้งหลาย  เขียนเป็นคติง่ายๆว่า ถ้าผักอยู่นี่  หนูต้องอยู่โน่นนนน
                เคยนั่งถามเพื่อนว่าหัดกินผัก ตั้งแต่อายุเท่าไหร่  บางคนก็ประมาณ 7-8 ขวบ บางคนก็สิบกว่าขวบ ส่วนผมเองหัดกินผักครั้งแรกอายุอานามก็ปาเข้า 19 ขวบ พอดิบพอดี ถือว่าเป็นรุ่นน้องล่าสุดของบรรดาเพื่อนๆทั้งหลาย  โดยอาศัย สุกี-ยากี้ เป็นตัวช่วย ในการตั้งไข่
                มานั่งนึกสาเหตุว่าบางคนถึงเริ่มกินผักตั้งแต่เด็ก แต่บางคนก็ปาเข้าไปหัดกินตอนวัยรุ่น หลังจากทำแบบสำรวจจากบรรดาพลพรรคมิตรสหาย สรุปออกมาได้ว่า คนจะหัดกินผักหรือไม่  ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับ คุณพ่อ-คุณแม่ นี่แหละครับ  ถ้าพ่อแม่ ไม่เข้มงวดบังคับให้กินผัก  รับรองว่าร้อยทั้งร้อย ก็ปฏิเสธขอลิ้มลอง  แต่ถ้าพ่อแม่มีวินัย  บังคับให้เริ่มหัดกินตั้งแต่เด็ก  ผักก็จะกลายเป็นอาหารประจำชีวิตโดยปริยาย
                ตอนผมเริ่มหัดกินผัก  เริ่มจากผักกาดขาว พัฒนามาเป็นผักบุ้ง  ส่วนผักอื่นๆ ขอส่ายหัว เซย์โนลูกเดียว  เพราะถ้านับอาวุโสแล้ว  ยังถือว่าเป็นระดับอนุบาล ในเรื่องผัก ต้องใช้การพัฒนาการอีกมาก 
                จ๊วต เพื่อนผมคนหนึ่ง หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาดู อายุปาเข้าไปยี่สิบ  แต่ชีวิตยังไม่เคยกินผัก  เพราะที่บ้านมีคติสอนใจว่า ก็....แล้วแต่  จ๊วต เลยถือโอกาสเป็นศัตรูกับผัก ตั้งแต่เด็กจนโต พอมาจับคู่กับผม เหมือนกับ ปลาทูคู่น้ำพริกกะปิ  ผีคู่โลงผุ  คนหนึ่งไม่กินผัก อีกคนกำลังเริ่มหัดกิน
                เดินเข้าไปกินก๋วยเตี๋ยวในอัตราควมหิวประมาณ กินควายได้ทั้งตัว  ผมสั่งเส้นหมี่ ลูกชิ้นไม่ใส่ถั่วงอก (ผักใส่ได้พองาม กลัวเด็กตะโกนสั่งว่า เส้นหมี่เด็ก หนึ่งชาม )  จ๊วต ได้ยินออเดอร์  หันหน้าไปกำชับด้วยเสียงหนักแน่นกับเด็กเสริฟ เส้นเล็กลูกชิ้นเนื้อสด ไม่ใส่ผัก  ไม่ใส่ถั่วงอก (เน้นอีกครั้ง เพื่อความชัดเจน)  ไม่ใส่ผัก  ไม่ใส่ ถั่วงอก...
                นั่งรอด้วยความหิวโหย พอเด็กเสริฟวางก๋วยเตี๋ยวลงตรงหน้า  เกือบจะเกิดการฆาตกรรมในร้านก๋วยเตี๋ยว เมื่อ จ๊วต  ตะโกนโวยวายเสียงดังลั่น ด้วยหน้าตาแนว ฆาตรกรต่อเนื่อง บอกแล้วงัย ไม่ใส่ผักๆ
                เด็กเสริฟตอบด้วยเสียงสั่นๆ  ก็ไม่ใส่ผักแล้วงัยครับ  จ๊วตชี้นิ้วลงบนชามก๋วยเตี๋ยว แล้วนี่อะไร  ผมก้มหน้ามองลงไปดู เห็นผักชีประมาณ สองสามก้าน ที่โรยเอาไว้บนก๋วยเตี๋ยว
                โถ....พ่อเจ้าประคู๊น  ใจคอจะไม่ให้มีสีเขียว อยู่ในอาหารเลยเหรอ
                ผมรีบปลอบใจ กลัวเหตุการณ์บานปลาย  เฮ้ย  แค่ผักชีเองน่า  ไม่เป็นไรหรอก
                คอตอบสวนกลับมาทันที ก็กูสั่งไม่เอาผัก  แล้วผักชี ไม่ใช่ผักเหรอว่ะ
                เออ......เมิงถูก  แต่..แหลกล่าย แล้ว
                มีคนไปทำวิจัยเรื่องผักๆกับคนไทย โดยเฉพาะกับเยาวชน เขาพบว่า เด็กไทยกินผักน้อยลงทุกปี  ผลพวงที่ตามมาคือการรับประทานผักผลไม้น้อยทำให้สุขภาพของเด็กแย่ลง ที่เห็นชัดเจนคือเป็นหวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย เจ็บคอ ทำให้ต้องกินยา เสียเงินค่ารักษาพยาบาลโดยไม่จำเป็น บางครอบครัวต้องพาลูกเข้าๆ ออกๆ ในโรงพยาบาลปีละหลายครั้ง เสียค่าหมอเป็นเรือนพันเรือนหมื่นต่อปี
อาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับเด็กๆ ได้ทุกวันโดยการกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น นอกจากจะได้รับวิตามิน เกลือแร่จากผักผลไม้แล้ว เขายังจะได้รับเส้นใยอาหารที่ช่วยจับไขมันและสารพิษต ่างๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง ออกไปจากร่างกาย และช่วยให้การขับถ่ายดี ไม่เป็นโรคท้องผูก
ก่อนสรุปด้วยข้อแนะนำที่ว่าพ่อแม่ควรชักชวนให้ลูกกินผัก อย่าปล่อยให้พี่เลี้ยงทำอาหารง่ายๆ แต่ไม่ถูกหลักโภชนาการให้ลูกกิน พ่อแม่ควรใส่ใจ พิถีพิถันในการเลือกปรุงแต่งเมนูผักให้หลากหลาย และถูกใจเด็ก ๆ มากขึ้น เปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมตั้งแต่การเลือกซื้อ การปรุง และมีเทคนิคที่ทำให้เด็กสนุกกับการรับประทานผัก รู้สึกว่าผักอร่อย ไม่ได้เหม็นหรือกินยากอย่างที่คิด และควรรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวอย่างน้อยวันล ะ 1 มื้อ จะช่วยให้เด็กมีทัศนคติที่ดีและรับประทานผักได้ง่ายข ึ้น เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ
แต่ผมว่าให้ดี น่าจะเชิญชวนในรูปแบบแนวศิลปินนิดๆ  หยิบเพลงเก่าๆของพี่ป้อมอัสนี  มาแปลงเล็กน้อย  แล้วชูแขนขวา ร้องให้เพื่อนๆฟังว่า
เขาว่าให้ดี  จะดูเข้าที  ต้องกินผักชีไว้  ......เอ้ววววววววววว ฯลฯ
                คุณจ๊วต เพื่อนรัก  โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง........เป็นวิทยาทาน
                                                                                                                กุนซือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น