วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หิมะตกที่เชียงใหม่ 13/10/2551

   

             ถ้ามีคนมาบอกว่า มกราคม ปีหน้า อาจจะมีหิมะตกบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย  หลายคนอาจจะส่ายหน้า บอกว่าคุณบ้า หรือว่าคุณเมา หิมะตกในเมืองไทยมันเกิดยากพอๆกับห้ามนักการเมืองไม่ให้คอรัปชั่น นั่นแหละ
                แต่ถ้าประโยคนี้เอ่ยมาจาก ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา  ซึ่งเป็น นักคิด-นักวิทยาศาสตร์ ระดับเทพของเมืองไทย  ผลงานที่หลายคนอาจจะไม่รู้คือ เป็นผู้คิดค้นระบบการลงจอดยานอวกาศบนดาวอังคาร ร่วมกับองค์การนาซา  ทำให้ประ โยคนี้หลายคนต้องหยุดเอียงหูฟังมากกว่าฟังหูซ้ายทะลุหูขวา
                ลองหลับตา จินตนาการ ดูเล่นๆว่า ถ้าหิมะตกบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย และเผอิญตกที่เชียงใหม่ ...อะไรจะเกิดขึ้น
          แหม.......แค่คิดก็สนุกแล้วครับ
                ตอนเด็กๆ เวลามีลูกเห็บตก  ผมวิ่งไล่เก็บมากิน  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าลูกเห็บตกเมื่อไหร่ ต้องรีบวิ่งไปเก็บคว้าหมับเข้าปากทันที ประมาณว่าเป็นขนบธรรมเนียมลูกเห็บ  ไม่กินเดี๋ยวตกกระแส  ทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า กินไปเพื่ออะไร กินแล้วได้อะไร
                ถ้ามกราคมปีหน้า หิมะตกลงมาจริง เราอาจจะเห็นการรื้อฟื้นความเชื่อเดิมๆอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้เด็กๆอาจจะมีอุปกรณ์เสริม คือน้ำแดงเฮลส์ บลูบอย มาเป็นส่วนประกอบ มือซ้ายโกยหิมะ มือขวาเท เฮลส์ บลูบอย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชิม เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว ได้ทั้งอินเทร์น และ...อร่อย
                หมอลักษณ์ ไม่ต้องฟันธง รับรองแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้ง คือจะเกิดปรากฏการณ์ หิมะฟีเวอร์  ถนนทุกสายต้องมุ่งตรงมาที่เชียงใหม่  ทั้งบก  ทั้งอากาศ ขาดอย่างเดียวคือทางน้ำเท่านั้น เพราะไม่มีเรือล่องทวนน้ำขึ้นมาส่ง 
                ชีวิตของคนเมืองเชียงใหม่  จะเข้าสู่นวัตกรรมใหม่คือ  คิดใหม่  ทำใหม่  กินอยู่แบบใหม่  ไปไหนมาไหน ต้องเริ่มคำนวณเวลา และเส้นทาง  อืดอาด ยืดยาดเหมือนในอดีตไม่ได้อีก
                เป็นช่วงเวลาชีวิตที่อยู่ระนาบเดียวกับ คนเมืองกรุง คือ ยุ่งอีรุงตุงนัง  ตลอดเวลา
                ดอยอินทนนท์  จะเป็นสถานที่ยอดฮิต  อาจจะมีการแลกบัตร  แจกบัตรคิว เพื่อจำกัดผู้คนที่ขึ้นไปเที่ยวบนดอย ใครช้า มาสาย อาจจะได้บัตรคิว เที่ยวดอนอินทนนท์ แต่เป็นบัตรคิวของปีถัดไปโน่น 
                เผลอๆ อาจจะมีตลาดมืด  รับซื้อ-ขาย บัตรคิวเผื่อไว้สำหรับเศรษฐีทั้งหลาย ที่มีเงินแต่ไม่ชอบต่อแถว  เพราะที่นี่เมืองไทย  ไม่มีพื้นที่ผิดหวังให้กับชนชั้นเศรษฐี
                บริษัททัวร์ ทั้งหลายอาจจะต้องทิ้งโบชัวร์เก่าทิ้ง จากเดิมมาเชียงใหม่ ต้องขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ แล้วมาขี่ช้าง ล่องแพ ในภายหลัง งานนี้อาจจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เปิดจุดขายใหม่มาเป็น ขึ้นภูเขา สัมผัสไอหนาว  เล่นสกี และปิดท้ายด้วยการกินหมูกระทะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ
                ยิ่งคิด  ยิ่งสนุก จินตนาการ เดินทางไปไกลหลายหมื่นลี้
                ขออย่างเดียว ขอให้คำพูดของ ดร.อาจอง  เป็นจริงซักครั้ง  รับรองว่างานนี้  ได้-เสีย ครับ...พี่น้องงงงงงงง
                                                                                                                                                กุนซือ
                                                                                                                                                               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น