ดูจากโพลที่สำรวจประชาชนคนไทยทั้งหลาย ว่าใครที่คนไทยคิดว่าทำร้ายประเทศไทยมากที่สุด คำตอบสุดท้ายคือนักการเมืองไทยที่คอรัปชั่นกันมาชั่วนาตาปี รองลงมาอันดับที่สองคือ บรรดาม๊อบทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง
ประเทศไทย ดินแดนที่นานาประเทศอิจฉาตาร้อน เพราะตั้งอยู่บนทำเลทอง พื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ในอดีตนักวิเคราะห์ก็ฟันธงว่า ไทยแลนด์ แดนสยามนี่แหละที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศแถบอาเซียน
แต่สุดท้าย ตอนนี้สิงคโปร์ มาเลเซีย ทิ้งเราจนไม่เห็นฝุ่น แถมเวียดนาม ประเทศที่ต้องทนทุกข์กับสงครามมายาวนาน ก็วิ่งไล่จี้มาหายใจรดต้นคอ
สาเหตุหลักคือนักการเมืองขี้ฉ้อทั้งหลาย ที่รุมทึ้งเมืองไทยจนเหลือแต่กระดูก
วงจรการเมืองไทย เหมือนกงล้อ ที่หมุนซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า พอมีการเลือกตั้งแต่ละครั้ง แต่ละคนก็ต้องหอบเงิน 20-30 ล้าน มากองตรงหน้าเพื่อจัดสรรในการซื้อเสียง ตามสโลแกน”เงินไม่มา กาไม่เป็น”
พอได้รับเลือกเข้าไปนั่งในสภา ก็ชูคอว่าเป็นบุคคลผู้ทรงเกียรติ ลับหลังก็พยายามถอนทุนคืน โดยการฉ้อโกง กินเปอร์เซ็นต์ กินใต้โต๊ะ จนอิ่มหมีพีมัน นักการเมืองบางคน จากไม่มีอะไร ช่วงเวลาไม่กี่ปี มีเงินเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านหน้าตาเฉย
ถ้าอยากจะให้ประเทศไทยหลุดจากบ่วงนี้ ต้องฆ่านักการเมืองประเภทนี้ให้สิ้นซากไปจากเมืองไทย
คนไทยนั้นเก่งเรื่องเขียนกฏ กติกา แต่เวลาบังคับใช้ดันทำไม่เป็น ไม่เด็ดขาด กฎหมายทั้งหลายเลยเหมือนกับกระดาษเปื้อนหมึก
คิดเล่นๆว่า เราลองมาตั้งกติกากันใหม่ ใครที่สามารถจับผิดการซื้อเสียงจากบรรดานักเลือกตั้งทั้งหลายได้ รับรางวัลไปเลย 2 ล้านบาท ส่วนใครที่ถูก กกต.จับได้พร้อมหลักฐานจะต้องถูกปรับเป็นเงิน 10 ล้าน รัฐเอาไป 8 ล้าน คนจับผิดเอาไป 2 ล้าน วิน-วิน ด้วยกันทั้งคู่ แต่ กกต.ต้องการันตีให้แน่นหนา ว่าชั้นความลับของผู้ส่งมาเป็นความลับในระดับ ลับมาก
ถ้าผู้สมัครที่ซื้อเสียงไม่มีเงินจ่าย รัฐต้องประกาศเป็นคนล้มละลาย เอาบ้านเอาทรัพย์สินมาประมูลขายเพื่อให้ได้ค่าปรับมากที่สุด งานนี้ไม่ต้องมีคะแนนสงสารมาเกี่ยวข้อง
เชื่อเถอะครับ เงิน 2 ล้านไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แถมยุคสมัยนี้เทคโนโลยีก็ทันสมัย ขี้หมูขี้หมา หยิบโทรศัพท์มาถ่ายเป็นคลิปตอนซื้อสิทธิ ขายเสียง ก็ทำได้แล้ว เผลอๆ ผมว่าอาจจะมีบริษัทจัดตั้งมาใหม่ เพื่อจับจับผิดนักโกงเลือกตั้งพวกนี้
เพราะรายได้ดี แถมยังได้ช่วยชาติ
แบงก์ 500 แบงก์พันที่หัวคะแนนยื่นให้ กับเงิน 2 ล้าน มันต่างกันอยู่อักโข รับรองว่าคนจะซื้อเสียงก็ต้องเสียวสันหลัง ไม่กล้าซื้อกันครึกโครมเหมือนกับที่ผ่านมา
งานนี้ต้องถามใจรัฐบาลกับ กกต.ว่าจะใจถึงหรือเปล่า เท่านั้นเอง
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น