นึกถึงภาพวิถี่ชีวิตของคนไทยเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อน เทียบกับตอนนี้หลายคนอุทานว่าเป็นไปได้อย่างไร ทำไมถึงผิดแผกแตกต่างกันอย่างนี้ โดยเฉพาะสังคมเมืองที่ถูกความเจริญถั่งโถมเข้ามา รวมถึงค่านิยมของตะวันตกที่ครอบงำจนมองไม่ออกว่าวัฒนธรรมแบบไทยไทยนั้นเป็นอย่างไร
จำได้ว่าตอนเป็นเด็ก ตื่นเช้าผมถือตระกร้าวิ่งตามคุณแม่เข้าตลาดจ่ายกับข้าว เห็นบรรยากาศตลาดในสมัยก่อนโน้นสนุกคึกคัก ผู้คนพลุกพล่าน เสียงต่อรองราคาผัก ราคาปลาดังระงม มีขนมอร่อยๆรสชาติแปลกให้ลิ้มลองอยู่เสมอๆ ถือว่าเป็นบรรยากาศแบบไทยๆอย่างหนึ่ง
ผ่านไปไม่ถึงสิบปี เดี๋ยวนี้วัฒนธรรมการจ่ายตลาดของคนไทยเปลี่ยนแปลงกันจนจำไม่ได้ สมศรี สมชาย คนรุ่นใหม่ ไม่เดินเข้าตลาดอย่างที่เคย แต่ใช้วิธีขับรถเข้าห้างสรรพสินค้า ซื้อเนื้อซื้อผัก ซื้อปลาตามมินิมาร์ท
ตลาดที่เคยคึกคัก กืพลอยเงียบเหงาลงเหลือแต่คนรุ่นเก่าที่ยังชมชอบเดินเข้าจับจ่ายซื้อของ ลองเอาอาหารที่วางจำหน่ายตามห้างมานั่งเทียบราคาหาความแตกต่าง เห็นอย่างนี้ครับ ผัก ปลา อาหาร ที่วางขายตามห้างจะมีการจับโดยมีวัสดุหุ้มห่อดูแล้วสะอาดปลอดภัย ดูดี น่าซื้อ ถ้าเทียบกับที่วางขายตามแผงลอยในตลาดที่หลายคนอาจจะรังเกียจว่าสกปรก ไม่น่าซื้อ
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วัฒนธรรมการซื้อของคนไทยในยุคหลังเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง
มองถึงความเป็นจริง ถ้าไม่ดัดจริต ผมเองอยากให้อนุรักษ์วิถีชีวิตแบบเดิมๆเอาไว้มั้ง ไม่ใช่ปล่อยให้กระแสโลกาภิวัฒน์เข้ามาครอบงำจนหมดไม่เหลือหลอ
ถ้าเราไม่ยอมรักษาวิถชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้บ้างแล้ว ต่อไปข้างหน้า จะบอกลูกหลานให้เข้าใจบรรยากาศแบบไทยคงเป็นเรืองที่ยาก ทั้งๆที่พูดอยู่บนผืนแผ่นดินไทย
ออกไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้าเมื่อใด เห็นแล้วก็ปวดใจ ค่านิยมตะวันตก ญี่ปุ่น อัดแน่นอยู่เต็มสมอง ใส่กางเกงนอก ทำทรงผมทรงทุกเรียนย้อมสีให้ดูเจ็บปวด กระเป๋า กางเกง หาเมด อิน ไทยแลนด์ยากเต็มที
ถ้าเยาวชนไทยเรามีความคิดอย่างนี้ อนาคตของไทยในวันข้างหน้าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งครับ เพราะถูกต่างชาติจูงใจได้ง่าย พูดอะไร เด็กไทยมีแต่ เยสๆๆกับเยส เพราะมองเห็นต่างชาติเป็นฮีโร่ คิดอะไรทำอะไรมาให้ก็ถูกไปหมด คุณๆครับอย่างนี้น่าเป็นห่วงมั้ยเอ่ย
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น