มีคนเขาบอกว่า เมืองไทยนั้นจะกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนได้ อันดับแรกต้องแก้ปัญหาโลกแตกที่ชื่อ”คอร์รัปชั่น”ให้ได้เสียก่อน
เพราะหยิบเอาประเทศในแถบอาเซียน มาวางแผ่ดูแล้ว เมืองไทยของเรานี่แหละครับ พร้อมสรรพด้วยคุณภาพมากกว่าประเทศอื่น ทั้งทำเลที่ตั้ง ทรัพยากรธรรมชาติ น้ำใจไมตรีฯลฯ นักลงทุนก็เลยแอบมองลู่ทางมาลงทุนในเมืองไทยเมื่ออดีต
แต่ตอนนี้ ฐานการลงทุน ย้ายฟากโครมๆๆ ไปยังประเทศอื่น เพราะปัญหาด้านการเมืองของไทย ที่ยังไม่นิ่ง เมื่อการเมืองไม่นิ่ง นักลงทุนเขาก็ไม่อยากหอบเงินอนาคต เข้ามาลงทุน เพราะไม่แน่ใจในนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
มองย้อนกลับไปยังรากแก้วของเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่า มาจากปัญหาการคอร์รัปชั่น โกงกินกันอย่างสะบั้นหั่นแหลก ของนักการเมืองและข้าราชการ จนประเทศผอมซีดไปทั้งตัว
การคอร์รัปชั่นในเมืองไทย นั้นฝังรากลึกจนยากจะแก้จริงหรือ มีคนบอกว่าตายไปอีก 4 ชาติ ก็แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในเมืองไทยไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราๆท่านๆ ก็ต้องปรับสภาพทนอยู่ให้ได้ ดูวงจรนักการเมืองที่ทุ่มเงินเข้ามาซื้อเสียง แล้วเข้าไปกอบโกยเงินกองคลังของประเทศ จนร่ำรวยไปตามๆกัน หลายคนก่อนเล่นการเมือง มีเงินไม่กี่ล้าน เป็นนักการเมืองไม่กี่ปี เงินงอกเงยเป็นร้อย เป็นพันล้านหน้าตาเฉย
แต่เราๆท่านๆ ก็ไม่ต้องไปเดือดร้อน เพราะเวลาเขาเอาเงินมาแจก มาซื้อเสียง เราก็รับกันหน้าตาเฉย แถมยังเดินเข้าคูหา ไปกาให้เขาเข้าโกงชาติ ก็ต้องทนๆกันไป ประเทศชาติไม่ต้องเดินไปไหน เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้น และดำเนินต่อไปได้เพราะเราๆท่านๆนี้แหละที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้”คอร์รัปชั่น”ในเมืองไทย เจริญรุ่งเรืองมาทุกยุค ทุกสมัย
แต่ถ้าเราจะแก้ปัญหานี้กันแบบจริงๆจังๆแล้ว คงไม่ยากเกินแกง เพียงแต่ทุกฝ่ายต้อง จริงจังและจริงใจการปราบปราม โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐรวมถึงฝ่ายตรวจสอบต่างๆ เพราะที่ผ่านมาถือสุภาษิต”เอาหูไปนา เอาตาไปไร่”มาตลอด
ตั้งแต่ผมเป็นเด็กจนถึงปัจจุบันนี้ มีนักการเมืองที่โกงชาติ ที่อยู่ในระดับรัฐมนตรีที่ต้องกระเด็นไปชดใช้กรรมในคุก เพียงคนเดียว ทั้งๆที่บรรดานักการเมืองขี้ฉ้อเหล่านี้มีอยู่เต็มสภา มาทุกยุค ทุกสมัย
เวียตนาม ประเทศเล็กๆที่ไทยเคยมองว่าเป็น”สมันน้อย” ไม่อยู่ในสายตา แต่เวียตนามก็แอบพัฒนาประเทศ จัดระบบการเมือง จนตอนนี้เวียตนามกลายเป็นประเทศที่นักลงทุนแห่แหนเข้าไปลงทุน ปัญหาหนึ่งที่เวียตนามให้ความสำคัญคือปัญหาคอร์รัปชั่น
อดีตรัฐมนตรีช่วยการค้าชื่อไมวันดาว, อายุ ๖๔, ของเวียดนามถูกศาลที่นั่นตัดสินจำคุก ๑๔ ปีเพราะถูกจับได้ว่ารับเงินสินบนจากพ่อค้าเพื่อแลกกับการให้โควตาสิ่งทอ กรณีนี้, ไม่เพียงแต่นักการเมืองในคณะรัฐมนตรีเท่านั้นที่ถูกตัดสินจำคุก, แต่ยังรวมไปถึงลูกชายอายุ ๓๕ ที่ชื่อไมทันไห่ซึ่งถูกศาลตัดสินติดคุก ๕ ปี
ข้อหาสำหรับลูกของรัฐมนตรีช่วยคนนี้คือไปรับปากพ่อค้าส่งทอว่าจะใช้เส้นสายและอิทธิพลในครอบครัวให้พ่อตัดสินใจเรื่องโควตาส่งออกส่งทอไปอเมริกาเพื่อให้พ่อค้ากลุ่มนี้ได้ประโยชน์อีกทั้งยังโดนจับได้ว่าปลอมใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเพื่อจะได้งานทำในกระทรวงที่พ่อของตัวเองเป็นใหญ่อยู่
คนรับสินบนถูกจับติดคุกยังไม่พอ, ต้องเอาคนให้สินบนด้วย ดังนั้น, ศาลประชาชนเมืองโฮจิมินห์จึงตัดสินให้ผู้จ่ายสินบนคือพ่อค้าสัญชาติจีนชื่อไลไวฮง แห่งบริษัทสิ่งทอชื่อ Sundance Company Ltd ติดคุก ๕ ปีด้วย
ในคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก ๑๑ คน, ซึ่งโดนจำคุกตั้งแต่ ๓ ปีถึง ๑๗ ปีเพราะมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการโกงกินครั้งนี้ด้วย ที่ติดคุก ๑๗ ปี (มากกว่าอดีตรัฐมนตรีช่วย ๓ ปี) ก็คืออดีตข้าราชการประจำกระทรวงการค้าที่ชื่อเลอวันทังซึ่งยอมสารภาพว่าได้รับเงินใต้โต๊ะ ๑๘,๐๐๐ เหรียญมะกันหรือประมาณ ๖๓๐,๐๐๐ บาท จากบริษัทสิ่งทอหลายแห่งเพื่อแลกกับการอนุมัติให้ได้โควตาสิ่งทอ
ใครที่เคยบอกว่า”เกิดใหม่อีก 4 ชาติ ก็แก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นในเมืองไทยไม่ได้” ผมว่าลองเหลือบตาดูเวียตนามซักนิด เผื่อจากคิดออกว่า จะฆ่าพวก”กังฉิน”นั้น เวลาชาตินี้ ชาติเดียว ก็ทันถมเถ
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น