ช่วงนี้เดินไปทางไหน เห็นใบหน้าใครหมองๆ ให้ประมาณการณ์เอาไว้ว่าน่าที่อยู่ในข่ายของ”ผู้ปกครอง”
ยิ่งใกล้เปิดเทอมเข้าเมื่อไหร่ ไม่รู้ว่ารายจ่ายทำไมถึงเดินหน้าพาเหรดเข้าบ้านไม่หยุดยั้ง ค่าโน่น ค่านี่ ถือเป็นภาระหนักหนาสาหัสสำหรับคนในฐานะปานกลางถึงยากจน
เขาไปสำรวจเม็ดเงินที่สะพัดในช่วงเปิดเทอมทั่วประเทศ เชื่อหรือไม่ครับว่ามีเงินหมุนเวียนถึง 50,000 ล้าน แบ่งโซนออกมาดูเฉพาะภาคเหนือ ดูตัวเลขค่าใช้จ่ายของนักเรียนได้ตัวเลขอย่างนี่ครับ
เด็กอนุบาลจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 8,209 บาท เด็กประถมถูกขึ้นมาหน่อย อยู่ที่คนละ 5,784 บาท ด้านเด็กมัธยมเสียถูกที่สุดคนละ 4,000 บาท โยกไปดูเด็กอาชีวะกันบ้างตัวเลขออกมาที่ 10,500 บาทต่อคน ส่วนเด็กระดับมหาวิทยาลัย แน่นอนครับค่าใช้จ่ายต้องมาเป็นอันดับ 1 คือเฉลี่ยคนละ 24,000 บาท
เห็นตัวเลขออกมาอย่างนี้ ลองหลับตา นึกถึงผู้ปกครองที่มีลูก 3-4 คนดูสิครับ ว่าเปิดเทอมแต่ละครั้ง สภาพจะหนักหนาสาหัสเพียงใด หลายคนต้องเริ่มวางแผนเก็บเงินมาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้เทกระเป๋าจ่ายในช่วงนี้
หลายคนเงินเดือนน้อย ก็ต้องหาแหล่งเงินจากที่อื่น
จำได้ว่าช่วงเป็นนักข่าวใหม่ๆ พอใกล้เปิดเทอมเมื่อไหร่ ต้องไปทำข่าวโรงรับจำนำทุกครั้ง เรียกว่าอยากรู้ว่าเงินหมุนเวียนสะพัดของสังคมไทยมีเท่าไหร่ ไปเช็คได้ที่โรงจำนำ ถ้าปีไหนโรงจำนำเตรียมเงินเอาไว้มากๆ แต่เตรียมเท่าไหร่ก็ไม่พอ ลูกค้ายังยืนเต็มหน้าร้าน
แสดงว่าคนไทย”ช๊อต”เงินกันหนักหน่วง
แต่เดี๋ยวนี้ เราเริ่มเอา”โรงจำนำ” มาเป็นมาตรฐานเหมือนเดิมไม่ได้แล้วครับ เพราะถึงแม้ฐานะคนไทยยังไม่ดีขึ้น แต่หนทางการหาแหล่งเงินมีมากกว่าเดิม มีธนาคารคนจน มีกองทุนโน่น กองทุนนี่มารองรับ
เป็นการสร้างหนี้ทางใหม่ ที่สะดวกกว่าเดิม เพราะเมื่อก่อนเวลาจะสร้างหนี้หาเงินมาเป็นค่าเทอมของลูก ต้องใช้”สายตา”มาเป็นตัวช่วย ว่าจะหาของชิ้นไหน ไปฝากอาเฮียชั่วคราว
แต่ตอนนี้ใช้เอกสิทธิ์ว่า เป็นคนถือหุ้นประเทศไทยอยู่ 1 หุ้น
ก็อาจจะเดินควักบัตรประชาชน หาเงินมาจ่ายง่ายกว่าเดิม
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น