หลังร้องเพลงส่งท้ายปีเก่าพร้อมสวัสดีปีใหม่แล้ว ว่ากันว่าความคิดหนึ่งจะวูบขึ้นมาในสมองของผู้คนทั่วไป แต่เป็นความคิดในลักษณะเดียวแต่แบ่งแยกออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทแรกจะคิดว่า “ไชโย เราโตขึ้นอีกปีแล้ว”
อีกประเภทหนึ่ง “เฮ้อ แก่ลงไปอีกปีแล้วเรา”
ประเภทแรกไม่ต้องบอกก็ตอบถูกคือบรรดาๆวัยรุ่นทั้งหลาย ส่วนประเภทหลังฟันธงได้ว่าอายุอานาม 30 อัพขึ้นไป
นาฬิกาชีวิตของคนนี่ค่อนข้างแปลกครับ ถึงแม้ว่าเวลาปรกติมาตรฐานจะเดินสม่ำเสมอ แต่นาฬิกาชีวิตจะเดินเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นใช้ชีวิตแต่ละวัน แต่ละเดือน ออกในรูปแบบใด
จำได้ว่า ตอนเด็กๆสมัยนุ่งขาสั้น อยู่โรงเรียน นั่งนับวัน นับเวลา ว่าเมื่อไหร่ อายุจะทะลุถึง 20 ซักที เพราะ สมัยนั้นอายุ 20 ปีถือว่าเป็นตัวเลข”สวยมาก”ของเยาวชนไทยรุ่นนั้น เพราะเดินเข้าร้านเหล้าได้ เดินลงเธคแบบไม่ต้องหลบต้องซ่อน อีกต่อไป ไปไหนมาไหน หน้าอกจะผึ่งผายกว่าปรกติ แบบถือว่าจะเดินผ่านเส้นกั้นของ”เด็ก”มาสู้แดน”ผู้ใหญ่”อย่างเต็มภาคภูมิ
ผมเองตอนอายุครบ 20 ปี เดินยืดอกไปทั่ว พยายามพูดจาให้เหมือนกับผู้ใหญ่ทั้งหลาย เวลาเดินลงไปเที่ยวดิสโก้เธค จะค่อยๆเยื้องย่าง ค่อยๆเดินเข้าไปอย่างเต็มภาคภูมิ ต่างจากอดีตที่ต้องรีบวิ่งเข้าไปเมื่อได้โอกาส
ฉลองความเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน ความรู้สึกยังดื่มด่ำ มารู้ตัวอีกครั้ง เมื่อมีคนทักว่าเข้าวัยเบญเพจแล้วนะ ทำอะไรให้ระวังตัวหน่อย
โห..... 5 ปี ไวเหมือนโกหก
เริ่มรู้สึกว่า”นาฬิกาชีวิต”ของตัวเองคงจะเสีย หรือไม่ก็ใช้ถ่านดีเกินไป มันถึงเดินเอ๊า เดินเอา ทำให้ช่วง”วัยรุ่นตอนต้น”หมดไปอย่างรวดเร็ว
ทำงานไปเรื่อยๆ กระพริบตาอีก 2-3 ที อ้าว!อายุมาจ่ออยู่ที่เลข 30 เรียบร้อยแล้ว “นาฬิกาชีวิต”เริ่มต้นวิ่งจ๊อกกิ้ง แบบไม่บอกล่วงหน้า งวดนี้มาพร้อมกับเลขรหัสใหม่จากเลข 2 ต้องขึ้นแท่นมาอยู่ในแดนเลข 3 พร้อมกับเสียงนินทาจากรุ่นน้องว่าจะขอเลี้ยงส่งท้าย”วัยรุ่นตอนปลาย”
จากนั้นมา ทุกวันสิ้นปีประโยคที่วิ่งเข้ามาในหัวก็มักจะออกมแนวมาตรฐานอาทิ “ทำไมปีนี้มันเร็วจังวะ”หรือไม่ก็ “แก่อีกปีแล้วตู”
ช่วงหลังๆเริ่มเอานิสัย ฝรั่งมาใช้ เวลาใครมาถามเรื่องอายุ จะเริ่มออกอาการ มองหางตา แต่ไม่ยอมตอบคำถาม ถือว่าเป็นการผิดมารยาทต่อผู้อาวุโสทางหนึ่ง
หลังอายุแตะเลข 3 ไม่นาน นาฬิกาชีวิตของผม เหมือนกินยาโด๊บจากเกาหลี ออกวิ่งหน้าตั้ง ถ้าเป็นหนังก็ต้องใช้ชื่อประเภท”โกยเถอะโยม”วิ่งกันหูดับตับไหม้
เดือนธันวาคมของแต่ละปี มีความรู้สึกเหมือนกับห่างกันแค่ 4 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือน เหมือนปุถุชนคนธรรมดา
ปีนี้ปีหมู แต่สำหรับผมปีนี้เป็นปี”หมูไป ไก่มา” เพราะผมต้องสังเวยรหัสเลข 3 ทิ้งไป พร้อมเวลคัมเลข 4 เข้ามาในชีวิตแบบไม่เต็มใจนัก
ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือ”ทำใจ” พร้อมกับท่องสำนวนของโกวเล้งเอาไว้ปลอดใจที่ว่า
“ชีวิตของบุรุษเพศเริ่มต้นเมื่ออายุ 40”
ปีนี้พฤติกรรมอาจจะเปลี่ยน งานหลักอาจจะเริ่มสำรวจบรรดาสวนอาหารต่างๆว่า”พิกัด”ไหนน่าสนใจ แทนที่จะล้วงกระเป๋าเดินเข้าผับเหมือนกับอดีต
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น