ว่ากันว่า “การพนัน”กับคนไทยนั้น เป็นของคู่กัน เหมือนปลาคู่กับน้ำ นกคู่กับฟ้า ปลาร้ากับส้มตำ วิธีการพนันของคนไทยจึงมีความหลากหลาย และน่าสนใจ เรียกได้ว่าทุกเรื่อง คนไทยสามารถ ปรับเปลี่ยนมาเป็นการพนันได้หมด
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พอฟุตบอลพรีเมียร์ ลีค ของแดนผู้ดี เริ่มประเดิมโม่แข้ง บรรดา”เซียนบอล”ทั้งหลายเลยออกอาการ กระดี๊ กระด๊า เป็นพิเศษ เพราะไม่ได้แทง ไม่ได้ลุ้น มาหลายเดือน ต่างพร้อมใจเฮโล”พนันบอล”กันยกใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ปวดหัวไม่รู้จะปราบกันอย่างไร เพราะส่วนใหญ่แทงกันผ่านทางอากาศ โทรกริ๊งกร๊าง พนันกันเป็นล่ำเป็นสัน
สาเหตุหนึ่งเพราะคนไทยชอบดูกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่ง แต่เชียร์อย่างเดียวมันก็ไม่สนุก เลยต้องมีติดปลายนวมให้ตื่นเต้น
เม็ดเงิน”พนันบอล”ของเมืองไทยเลยวิ่งทะลุหลักหมื่นล้านในแต่ละปี แบบไม่ยากเย็นนัก มีคนตั้งข้อสังเกตว่า คนไทยนั้นเก่งกีฬา แต่ต้องเป็นกีฬาที่เล่นคนเดียว เช่นเทนนิส สนุกเกอร์ โบว์ลิ่งฯลฯ แต่พอมาเล่นเป็นทีมเมื่อไหร่ ผลงานอยู่ปลายแถวตลอด ถือว่าเป็น”อะเมซซิ่ง ไทยแลนด์”แขนงหนึ่ง
วกกลับมาเรื่องคนไทยกับการพนัน มีข้อหนึ่งที่น่าสังเกตว่าคนไทยเป็นชาติหนึ่ง ที่มีความสุดยอด การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง รวมถึงคิดค้น การพนันในรูปแบบใหม่ๆ มาใช้อยู่ตลอดเวลา เรียกว่าฝรั่งมังค่า พอเห็นรูปแบบการพนันในเมืองไทย ต้องคุกเข่า ซูฮกบอกว่า...คิดออกมาได้อย่างไร
นักพนันจากต่างแดน มาแทงบอล ที่เมืองไทย รับรองว่าจะต้องเกิดอาการ”ลังเล”แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะโอกาส”ได้”และ”เสีย”นั้นมีเครื่องหมาย”เท่ากับ” คั่นกลางอยู่ทุกครั้ง เลือกไม่ออก บอกไม่ถูกกันทุกราย เนื่องจากอัตราการแทงนั้น ไม่มีชาติไหนในโลกจะมีเหมือน ฝรั่งบอกอัตราพนันแบบเดียวคือ แทงเท่านี้ จะได้เท่านั้น แต่คนไทยจับอัตราต่อรองมาเปลี่ยน แตกแขนงออกมาเป็น ครึ่งลูก/ ลูกควบครึ่ง/ ป.ป ฯลฯ ใครอยากแทงบอลที่เมืองไทย อาจจะต้องหา”ดิกชันนารีบอลไทย”มาเป็นเครื่องมือ ประกอบการตัดสินใจ
เมืองผู้ดีคิดเกมสนุกเกอร์ พอมาถึงเมืองไทยโดนแปลงโฉมเป็น สนุกฯกา สนุกเกอร์ไฟฟ้า ผีดำ อเมริกันบอกฉันขอแตกต่างจากอังกฤษ เลยเอาลูกสนุกเกอร์ มาทำเป็นลูกลาย และลูกเกลี้ยง ใช้ชื่อว่าเกมพูล
พี่ไทยเห็น เลยจับลูกพูลของอเมริกัน มาเล่นบนโต๊ะสนุกเกอร์ของอังกฤษ เสร็จสรรพหยิบไพ่เข้ามาผสม แล้วตั้งกติกาใหม่ กลายพันธุ์มาเป็น”ผีไพ่”ไปได้น่าตาเฉย
แถมเกมยังสนุกสนาน มันส์กว่าของดั้งเดิมแบบเทียบกันไม่ติด เนื่องจากใครเข้าไปเล่น ไม่ว่าฝีมือจะดีแค่ไหน โอกาสเสียเงินได้ตลอดเวลา เพราะกติกาที่พี่ไทยตั้งนั้น เน้นเรื่อง”ดวง”มากเป็นหลัก “ฝีมือ”นั้นใช้ประกอบเพียงผิวเผิน
ใครว่า”วิทยาศาสตร์การกีฬา”ของฝรั่งเจ๋ง ผมว่าแพ้”วิทยาศาสตร์การพนัน”ของไทยหลุดลุ่ย
ส่วนพี่ไทยที่ชอบเล่นพนันกันจนเป็นชีวิตจิตใจนั้น ขอเตือนเอาไว้ก่อนนะครับว่า ถ้าอยากเล่น ก็เล่นพอหอมปากหอมคอ พอเป็นค่าก๋วยเตี๋ยว ค่ากาแฟ ถือว่าสร้างสีสัน ของเกม อย่าเล่นด้วยความโลภ เพราะหวังรวย
เนื่องจากกฎหมายไทยเขาตราเอาไว้ชัดเจนว่า
“อันการพนันขันต่อ หาให้ก่อเกิดหนี้ไม่”
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น