สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสะพายเป้ กระโดดขึ้นรถไป”แอ่ว”เชียงราย เมืองพ่อขุน ซึ่งปีนี้ปรากฏว่าได้รับอานิสงส์จากงานพืชสวนโลกที่เชียงใหม่ ทำให้ทัวร์ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อขึ้นมาเชียงใหม่แล้วถือโอกาสไถลไปเชียงรายต่อ
พูดถึงเชียงรายเป้าหมายหลักของผมคือ”แม่สาย”เมืองชายแดน ที่เศรษฐกิจอู้ฟู่เหลือหลาย ว่ากันว่าเม็ดเงินที่สะพัดอยู่ที่อำเภอแม่สายนี้ โตกว่าอำเภอเมืองเชียงรายถึง 3 เท่า ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธด้วยเหตุที่”แม่สาย”เป็นเมืองหน้าด่าน การค้าชายแดนทำให้”เงิน”ที่นี่ไหลเวียนมากกว่าที่อื่น
หลายปีที่ผ่านมา เวลาไปทำข่าวที่แม่สาย ผมมักจะทำข่าวอยู่บริเวณชายแดนไทยแถบแม่สาย ไม่ข้ามไปทำข่าวด้านท่าขี้เหล็กมากนัก เพราะมัวแต่นึกว่าฝั่งโน้นกับฝั่งนี้ก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก
พอคราวนี้ข้ามไปฝั่งพม่า เห็นแล้วอยากเอาหนังสือ”กบในกะลา”มาวางครอบหัว
สนนราคาค่าทำวีซ่าชั่วคราวจากฝั่งไทยไปพม่าเพียงแค่ 30 บาท พอข้ามสะพานไทย-พม่า พี่หม่องก็ขออีกคนละ 10 บาทเป็นค่าอะไรซักอย่าง เพราะเขียนเป็นตัวหนังสือพม่า ยากแก่การอธิบาย ให้กับคนไทยด้วยกันได้รับรู้ สรุปว่าจ่ายไปเถอะ อย่าเรื่องมากเป็นพอ
แม่สายกับท่าขี้เหล็ก ถึงแม้จะมีแค่สะพานเล็กๆกั้นไว้ แต่ความเป็นจริง 2 ฝั่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในความรู้สึกของบรรดา”ช๊อปแชมป์”ทั้งหลาย
เพราะสินค้าที่วางขายของท่าขี้เหล็กจะมีความโดดเด่นที่ฝั่งแม่สายไม่มีคือ สินค้า”ก๊อปปี้”ที่เดินทางมาจากเมืองจีน มาวางแผ่หราชวนให้บรรดาขาช๊อปปิ้งทั้งหลาย หัวใจเต้นระรัว
เนื่องจากเดี๋ยวนี้ฝีไม้ ลายมือการปลอมแปลงสินค้าของเมืองจีน อาจจะถึงขั้น”เหยียบผืนทราย ไม่ทิ้งรอยเท้าให้เห็น” แต่ถ้าเป็นขาโจ๋เมืองไทยอาจจะอุทานเสียงดัง ฟังชัดว่า
”โห...เหมือนโครต โครต”
โดยเฉพาะของแบรนด์เนม ทั้งหลายไม่ว่า หลุยส์ วิดตอง ,ปราดา, กุชชี่ฯลฯ ถ้าเจ้าของเดินทางมาเที่ยวท่าขี้เหล็ก อาจจะกระอักโลหิต ตีหัวชกอกตัวเอง ตะโกนฟ้องสังคมว่า กระเป๋าหลุยส์ตูขายใบละ 3 หมื่น แต่น้องฝาแฝดที่ท่าขี้เหล็กเหลือใบละ 800
เหตุผลนี่เองที่ทำให้แถว”นักช๊อป”ไทยยาวเหยียดบริเวณสะพานข้ามไทย-พม่า แต่ละคนมุ่งมั่นจะเสาะหาของดี ราคาถูกมาไว้ในครอบครอง
ท่าขี้เหล็กตอนนี้เลยจำแลงเปลงร่างเป็น”ซอยละลายทรัพย์”ของคนไทยโดยถ้วนหน้า
ผมเองเนื่องจากอุปนิสัย ไม่ค่อยพิสมัยการช๊อปปิ้ง เนื่องจากมีปัญหาเรื่อง”ทรัพย์ ซินโดรม” เลยต้องพยายามใช้วิธี ขี่ม้าเลียบเมือง มองตรงโน้นที มองตรงนี้บ้าง พยายามให้สายตาทำมุมมองในระยะ”ผาดๆ”อย่าเพ่งเล็งของชิ้นใดเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นตัวกิเลส จะวิ่งเข้าสิง จนเป็นเหตุให้เสียทรัพย์ในบั้นปลาย
กำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ มีมือมาสะกิดที่เอว หันมาเป็นชายหนุ่มที่ไม่ต้องบอกว่าเป็นชาติไหน นอกจากพม่า เพราะผิวคล้ำแถมกินหมาก พูดภาษาไทยแบบกระท่อนกระแท่น จับใจความได้ว่า
“เพ่ๆ เอารูปโป๊หน่อยมั้ย....สวยมาก สวยมาก”
ผมรีบเบือนหน้าหน้า แต่นึกสงสัยในใจว่า”หน้าตาผม มันออกแนว”หื่นกาม”ตั้งแต่เมื่อไหร่”ทำไมมันถึงเดินมาเจาะจงขายให้กับผม ทั้งๆที่มีผู้คนดินกันอย่างพลุกพล่าน
ความพยายามยังไม่หยุด มันยังรุกขายของต่อ คราวนี้ส่งแคมเปญพุ่งตรงเข้ากลางจิตใจทันที
“เพ่ๆ เอา”ไวอากร้า”มั้ย ดีนะ...เอาไว้ยุ่งกับสาวๆ”
โห....งานนี้หันไปมองหน้ามัน แสดงออกให้รู้ว่า
”มี....เคือง”
พูดจาหาว่า”หื่นกาม”ยังพอคบ แต่ประนามว่า”ไร้น้ำยา”เนี่ย คบไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น