วันนี้ขอหยิบหนังสือมาแนะนำหนึ่งเรื่องครับ หน้าปกหนังสือเล่มนี้เขามีนิยามเขียนเอาไว้ว่า 1 ในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน มาสู่ 1 ในภาพยนตร์ที่คนไทยทุกคนต้องดู
หนังสือชื่อ เหมืองแร่ ของอาจินต์ ปัญจพรรค์ แต่คุณจิระ มะลิกุล เอาต้นฉบับไปทำหนังตั้งชื่อว่า มหา’ลัยเหมืองแร่
ตอนหนังเข้าโรงเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ผมขยับทำท่าจะเข้าไปซื้อตั๋วหลายครั้ง เพราะเคยเห็นในโปรแกรมหนังมาก่อน หนังสวย มุมภาพดี ฯลฯ แต่เนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า
หนังทำได้ดีมาก แต่อ่านหนังสือสนุกกว่า
เลยตัดใจหันหลังให้เมเจอร์ เดินหน้าเข้าร้านหนังสือแทน เห็นหนังสือปุ๊บอยากเปลี่ยนใจเดินเข้าโรงหนังปั๊บ เพราะหนังสือเล่มหนาประมาณ 500 แผ่น แถมความยาว 2 เล่มจบ
งานนี้คงต้องใช้เวลากว่าจะสรุปเรื่องราวสำเร็จ
พลิกไปบทแรก ซึ่งคุณอาจินต์ เขียนจบเป็นตอนๆ แต่ละตอนก็มีเรื่องราว มีชีวิต มีตลกคละเคล้ากันไป ยิ่งอ่าน ระยะเวลาที่ตั้งโจทย์เอาไว้ เริ่มร่นเข้ามาเรื่องๆ เพราะเกิดอาการ”วางไม่ลง”
ยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา หนังสือเรื่องเหมืองแร่นั้น “โดน”มากที่สุด
ถ้าโกวเล้งยังมีชีวิตอยู่อาจจะได้คำวิจารณ์ว่า ถ้าเปรียบภาษาที่มีลีลา มีสีสัน เสน่ห์ที่เปี่ยมมนต์ขลังอย่าง รงศ์ วงษ์สวรรค์ เป็นเหมือนกับ เล็กเสี่ยวหงส์ แห่งหงส์ผงาดฟ้า
ภาษาของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ก็ต้องเป็นชอลิ่วเฮียง แห่งจอมใจจอมยุทธ์
อ่านหนังสือจบต้องยอมรับทันทีไม่เจอภาษาสวยๆอย่างนี้มานานแล้ว
หยิบมาให้ลองอ่านพอสังเขปอาทิ”พระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ตก กลางคืนเข้าเวรอย่างเงียบเชียบของมันจนถึงเช้า แล้วถอยไปอยู่อีกซีกหนึ่งของโลกอย่างรู้หน้าที่ แล้วพระอาทิตย์ก็ขึ้นอีก วันเวลาล่วงไปมันทบกันเข้าเป็นฤดูร้อน ฝนหนาวเคลื่อนตัวเองอันไม่มีตัวตน แล้วมันก็เลื่อนออกไปจากแผ่นปฎิทิน”
หรือ”ฝนตกจนใบไม้โงหัวไม่ขึ้น”
อ่านเสร็จเกิดอาการ”อึ้งไปเลย” แอบตั้งคำถามกับตัวเองว่า”เขียนได้งัยเนี่ย”
งานนื้เลยต้องขอโปรโมทให้บรรดาหนอนหนังสือทั้งหลาย ไปซื้อไปหามาอ่านโดยพลัน งานนื้การันตีว่าไม่ได้ค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว แต่เสียเงินซื้อหนังสือเล่มละ 200 กว่าบาทไปแล้วถึง 2 เล่ม
แต่เป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่าครั้งหนึ่ง ถ้าให้คุณพิษณุ นิลกลัด แห่งกอล์ฟทิป มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ต้องบอกว่า
“หนังสือเล่มนี้ คุณๆพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง”
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น