วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

โรงเรียนของหนู บนยอดภู ภาค 2


ตะลุย บ้านแม่หืด(2)
                คราวก่อนเขียนค้างไว้สำหรับเป้าหมายของชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ นำทัพโดยพี่ตุ้ย ตอแย ประธานชมรมซึ่งปีนี้ปักหมุด จะลำเลียงผ้าห่ม เครื่องกันหนาว ยา รวมถึงเครื่องอุปโภค บริโภคให้กับหมู่บ้านในถิ่นทุรกันดาร โดยตั้งเข็มทิศไว้ที่หมู่บ้านแม่หืด ต.บ่อหลวง อ.ฮอด
                แถมปีนี้มีประธานร่วมคือ สมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยครู-มหาวิทยาลัยราชภัฏ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีคุณพี่เศวต เวียนทอง นายกสมาคม ถือธงนำหน้าขอแจมเป็นเจ้าภาพทำบุญร่วมกัน
                ผมเองเดินทางไปสำรวจเส้นทาง รวมถึงความเป็นอยู่ของหมู่บ้านเมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา ขับรถเข้าป่า(จากสวนสน อ.ฮวด)ประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงเป้าหมาย
                บ้านแม่หืด เป็นหมู่บ้านของชาวกระเหรี่ยง ตั้งชุมชนอยู่ประมาณ 200 ครัวเรือน ที่นี่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างเดียว ไฟฟ้าไม่มี ท่อประปามาไม่ถึง ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่ ปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด หาของป่าประทังชีวิต
                ในหมู่บ้านมีโรงเรียนเล็กๆอยู่โรงเรียนหนึ่ง แต่เมื่อผมได้พบ ได้สัมผัส บอกได้สั้นๆว่า นี่คือโรงเรียน ที่เป็นโรงเรียนจริงๆ  มีนักเรียนอยู่ประมาณ 30 กว่าคน คละกันไปตั้งแต่ ป.1 จนถึง ป.6
                โรงเรียนนี้ขาดหนังสือเรียน ขาดสมุด ขาดดินสอ มีกระดานดำเก่าๆแปะอยู่ข้างฝา อยู่ในสภาพชุลมุน เพราะห้องเรียนห้องเดียวนั้น มีนักเรียนอยู่ 6 ชั้นปี นั่งปะปนกัน หลับตานึกถึงภาพครูผู้สอนว่า จะต้องแยกโสต แยกประสาทกันขนาดไหน เวลาถึงเวลาเรียน
                ข้างหน้าโรงเรียน มีสนามหญ้า ซึ่งนับต้นหญ้าได้เพียงไม่กี่ต้น นอกนั้นก็เป็นดินแข็งๆ มีเสาประตูฟุตบอลทำด้วยไม่ผุๆ ตรงนี้เป็นสนามกีฬาในฝันของเด็กชาวกระเหรี่ยง เอาไว้เตะบอล วิ่งเล่น ช่วงพักกลางวัน
                แต่เชื่อมั้ยครับว่า โรงเรียนจะมีสภาพทรุดโทรมแค่ไหน เด็กๆตื่นเช้ามาก็เดินหน้าเข้าโรงเรียนทุกวัน
                ครูสมชาย ซึ่งทำหน้าที่ทั้งครูใหญ่  ครูประจำชั้น แม่ครัว รวมถึงภารโรง  เล่าให้ฟังว่า ถึงแม้เขาจะเป็นครูเพียงคนเดียว ที่ทำหน้าที่ครูให้กับเด็กๆในชนบทแห่งนี้มา 18 ปี  แต่ยังไม่เคยวางแผนชีวิตว่า จะหนีกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงราย
                ครูสมชาย เป็นครู ที่ผมบอกได้ว่าเป็นยิ่งกว่าครู เพราะต้องเสียสละ เอาอนาคตทั้งหมดมาจบที่กลางป่า กลางดอย โดยไม่เคยเรียกร้องขอรางวัลจากใคร เงินเดือนที่มีอยู่น้อยนิด พอเดินทางเข้าเมืองมาเบิก กลับไปเข้าป่าก็ต้องซื้อบรรดามาม่า ยำยำ กลับติดมือ เพราะนั่นคือ มื้อเที่ยงของเด็กๆทุกคน
                ตอนเช้าสอน กลางวันทำครัว ตกเย็นถือไม้กวาดเป็นภารโรง ถือเป็นบุคคลในระดับ 3 in 1 ที่ต้องยกนิ้วให้
                ผมถามคุณครูผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ว่า อยากได้อะไร ครูสมชายบอกว่า อยากได้ บะหมี่สำเร็จรูป เพื่อเป็นอาหารกลางวันสำหรับเด็กๆ  อยากได้ยาพาราฯ ยาแก้ปวดท้อง เพราะเด็กๆมักจะเป็นไข้ และปวดท้องอยู่บ่อยๆ อยากได้หนังสือเรียนดีๆ เพราะทุกวันนี้บทเรียนที่สอนใช้กระดาษรีโซเคิล ไปถ่ายเอกสารจากคู่มือการสอน แล้วเอามาสอนเด็กๆอีกครั้งหนึ่ง
          ดีมานด์ทั้งหมด อยู่ที่เด็กล้วนๆ
          ถ้ามีเวลาว่าง อยากชวนคุณๆมาเปิดเพลงโรงเรียนของหนู หลับตานั่งฟังด้วยกัน เผื่อจะนึกภาพออก ว่ายังมีคนที่เดือดร้อนเงยหน้ามองพวกเราๆทั้งหลาย อีกเยอะ ถ้าใครสนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือคนเหล่านี้  ติดต่อได้ที่เชียงใหม่นิวส์ได้ทันที ทุกวัน ไม่มีวันหยุดก่อนวันเดินทางคือวันที่ 4 ธันวาคม นี้นะครับ
                                                                                               
                                                                                                                                กุนซือ
                                                                                                P_kiti@hotmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น