วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แท็กซี่มิเตอร์ ที่เชียงใหม่





เห็นข่าวทะเลาะเบาะแว้งระหว่างแท็กซี่ ที่สนามบินเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะสาเหตุมีการเปิดประมูลที่จอดรถรับส่ง ภายในสนามบิน เมื่อมีการประมูลก็ต้องมีสองฝ่ายคือ ฝ่ายที่ชนะการประมูลคือ บริษัท คาร์เรนทัล เชียงใหม่ และฝ่ายที่ผิดหวังคือสหกรณ์นครล้านนาเดินรถ จำกัด   จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวทะเลาะเบาะแว้ง ปรากฏไปตามสื่อ
เรื่องประท้วง หรือเรื่องขัดประโยชน์ ค่อยมาว่ากันวันหลังครับ  วันนี้ขออนุญาตคุยกันเรื่องแท็กซี่มิเตอร์ ที่เปิดบริการในเชียงใหม่ก่อน
ก็รู้ๆอยู่ครับว่าคนเชียงใหม่นั้นนิยมเดินทางโดยรถส่วนตัว
        ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง หรือจักรยานยนต์ ถ้าจะใช้รถบริการรับส่งสาธารณะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสองแถวหรือว่าสี่ล้อแดง รวมถึง ตุ๊กๆ
         ส่วนแท็กซี่มิเตอร์ ที่เปิดให้บริการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่
ลูกค้าหลักของแท็กซี่มิเตอร์ทั้งหลาย ก็เลยเป็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
ดังนั้น ตลาดหลักของแท็กซี่ มิเตอร์ คือ สนามบินเชียงใหม่
ผมเองเวลาเดินทางออกนอกพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้บริการบรรดานกเหล็กโลว์คอสต์ ทั้งหลายเนี่ยแหละครับ เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไม่สูงเหมือนเมื่อก่อน
เวลาบินกลับมาที่เชียงใหม่  โดยส่วนตัวก็ไม่อยากจะเป็นภาระใคร ที่ต้องขับรถมารับ ก็เลยใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ จากสนามบินเป็นหลัก เพราะง่ายและไม่ต้องรอนาน เดินทางได้ทันที
ช่วงก่อน เวลาเรียกใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเรียกรถจากสนามบิน 50 บาท  จ่ายเสร็จสรรพก็สะพายเป้กระโดดขึ้นแท็กซี่ได้เลย คนขับเขาก้อจะกดมิเตอร์ คิดตามระยะทาง                       สนนราคาที่จ่ายประจำจากสนามบินเชียงใหม่มาถึงบ้านผม ก็ประมาณ 180 บาท
แต่ช่วงหลัง เกิดปรากฏการณ์ขึ้นมาใหม่ เวลาเรียกใช้แท็กซี่ มิเตอร์จากสนามบิน มีเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อลูกค้าอยู่ประตูทางออก จะถามพิกัด จุดหมายปลายทาง และแจ้งราคาเหมาให้ทราบ
        ซึ่งราคาจากเดิมที่ผมเคยจ่าย 180 บาท กลายเป็นราคา 300 บาท
มีให้เลือกสองอย่าง คือ ไป กับ  ไม่ไป
ผมเองเจอครั้งแรกถึงกับหงุดหงิด บอกปัดปฏิเสธ เพราะมองว่าเป็นการมัดมือชก หลับตาคิดว่าถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวต่างถิ่น เขาไม่รู้ว่าพิกัดอยู่ตรง แล้วโดนราคาเหมาแบบนี้ เขาจะรู้ว่าราคานี้เป็นธรรมได้อย่างไร
หลังจากบอกปัด ในใจคิดว่าเดี๋ยวไปรอรถแท็กซี่ ที่วิ่งเข้ามาส่งผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจากสนามบินเชียงใหม่ก็ได้  อาจจะรอนานหน่อย แต่รู้สึกสบายใจกว่า ต้องมาโดนราคาเหมา
        รออยู่นานพอสมควร กว่าจะมีรถแท็กซี่ ที่มาส่งผู้โดยสาร ที่ประตูทางเข้า
พอผู้โดยสารลงจากรถ  ผมรีบเดินเข้าไปใช้บริการต่อทันที
        เชื่อหรือไม่ครับ เกิดปรากฏการณ์ อะเมซซิ่ง ไทยแลนด์ ขึ้นมาอีกหน
คนขับ หันมาบอกว่า "รับไม่ได้ครับ"
        ผมถามว่า ทำไมเหรอ ก็ใช้บริการตามปรกติ
        คนขับตอบสั้นๆว่า"เขาไม่ให้รับ" แล้วบึ่งรถออกไปทันที
ผมเลยต้องมึนตึบ ว่า"เขา" นั้นคือใคร จนทุกวันนี้ยังไม่มีคำตอบ
แต่วันนั้นคำตอบสุดท้ายคือ.....
        เดินแบกเป้ กลับมาตายรัง ยอมจ่ายไป 300 บาท เพื่อจะได้กลับบ้าน
นั่งแท็กซี่กลับบ้าน นั่งไป คิดไป ดันไปคิดถึง ดอน  คาลิโอเน่ แห่ง ก็อดฟาเธอร์ ได้อย่างไร ไม่ทราบสาเหตุ
ตั้งแต่นั้นมา เลยต้องทำใจ ลงเครื่องปุ๊บ สะพายเป้เหมือนเดิม  
        แต่เพิ่มเติมคือ ควักตังค์ 300 บาท เตรียมไว้เลย....รับรองไม่ผิดหวัง
ช่วงหลังเวลาเรียกใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์  นั่งไป ก้ออยากสะกิดถามพี่คนขับแท็กซี่่ว่า....
"เอ่อ...พี่ครับ เมื่อไหร่พี่จะถอดป้ายมิเตอร์ที่ติดอยู่บนหลังคาออกซักทีหละครับ  ผมว่ามันมี...เหมือนไม่มีนะครับ"
กุนซือ
p_kiti@hotmail.co

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น