วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

อาหารชาตินิยม







         วานก่อนไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวแถวๆบ้าน ร้านที่ผมทานประจำลูกค้าค่อนข้างเยอะ เรียกว่าเข้าๆออกๆ แตะมือผลัดกันตลอด  เพราะน้ำซุปอร่อย  ควมจริงก๋วยเตี๋ยวจะอร่อย หรือไม่อร่อยเนี่ย มันมีองค์ประกอบอยู่หลายอย่างนะครับ  แต่ผมว่าน้ำซุปนี่แหละครับที่ถือเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่ง
เผอิญมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสองคน ชาย-หญิง เดินเข้ามาในร้าน หันรีหันขวาง พยายามหาโต๊ะนั่ง สุดท้ายก็ได้โต๊ะใกล้ๆกับผม  เลยถือโอกาสเอียงหูฟัง  ว่านักท่องเที่ยวจีนเค้าจะสั่งก๋วยเตี๋ยวแนวไหน เผื่อเป็นวิทยาทาน อีกหน่อยมีสตุ้งสตางค์อาจจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวรับแต่ทัวร์จีน โกยเงินกับเค้ามั้ง
หลังจากมองโน่น มองนี่ซักพัก เพราะมีแต่ป้ายภาษาไทย เค้าคงอ่่านไม่ออก ออเดอร์แรกที่นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจสั่งคือ.."คุณมีผัดไทยไหม?"
         ผมเลยถึงบางอ้อว่า  อาหารไทยที่สร้างชื่อให้เมืองไทย ที่ยังอยู่ในใจคนทั้งหลายมีอยู่ 3 อย่างเหมือนเดิม คือ...
ต้มยำกุ้ง  ส้มตำ และ ผัดไทย
อาหารเทพ 3 อย่าง มาเมืองไทยถ้าไม่ได้ลิ้มลอง แปลว่า..มาไม่ถึงเมืองไทย
เลยลองไปค้นคว้าที่มาของผัดไทย ว่าอุแว้ครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อไหร่  เผื่ออีกหน่อยเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เค้าอยากรู้ที่มา  ที่ไป ของผัดไทยของเรา จะได้ยีดอกอธิบายได้ถูก
สำหรับผัดไทยเนี่ย เค้าว่าพึ่งเกิดสมัยจอมพลป.พิบูลสงคราม นายกฯในตำนานของเมืองไทย นี่เอง ว่ากันว่าท่านจอมทพล ป.  เห็นคนไทยกินกันแต่ผัดซีอิ๊วของคนจีนเลยดำริให้คิดหาสูตรก๋วยเตี๋ยวผัดมาแข่งกับผัดซีอิ๊วก็ได้มาเป็นผัดไทยนั้นเอง
แม้ว่าหน้าตาของเจ้าผัดไทยจะกระเดียดไปทางอาหารจีน เพราะใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวผัด แต่จริงๆ แล้ว ผัดไทยเป็นอาหารที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของคนไทยแท้ๆ เลย มิหนำซ้ำยังเกิดในช่วง “รัฐนิยม” สมัยจอมพล ป.พิบูลย์สงครามเสียด้วย อย่างที่รู้ๆ กันว่าช่วงนั้นกระแสความเป็น “ชาติไทย”ฟีเวอร์ขนาดไหน ในเมื่อเรามีอะไร ๆ ที่เป็นไทยแล้วมากมาย จะขาด“อาหารไทย” ไปได้อย่างไร
        ผัดไทยจึงเกิดขึ้นมาด้วยประการฉะนี้
ผัดไทย ประกอบไปด้วย เส้นเล็ก เต้าหู้เหลืองซอย กุ้งแห้ง ใบกระเทียม ไข่ถั่วงอกดิบ สมัยนี้ยังมีผัดไทยกุ้งสด บางทีก็ผัดไทยห่อไข่ด้วย แถมบางเจ้ามีผัดไทยใส่หมูเสียด้วย
        แต่รู้ไหมครับว่าผัดไทยที่เป็นไทยแท้ๆ นั้น ต้องไม่ใส่หมูเด็ดขาด
         หลายคนอาจจะทำหน้าแมวสงสัยว่า ทำไมไม่ใส่หมู  เหตุผลก็เพราะว่าคนในสมัย “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” เขามองว่าหมูเป็นอาหารของคนจีน คนไทยนานๆ ถึงจะกินหมูสักที ดังนั้น เนื้อหมูเลยหมดสิทธิ์มาอยู่ในจานอาหารไทยรัฐนิยม
ผลพวงของนโยบายชาตินิยมของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นั้น ได้ก่อกำเนิดอาหารขึ้นมาชนิดหนึ่งและเหลือมาถึงปัจุบัน อาหารชนิดนั้นเกิดขึ้นเพราะจอมพล ป. พิบูลสงคราม เห็นว่าในสมัยนั้น "ก๋วยเตี๋ยว" เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากเพราะมีร้านก๋วยเตี๋ยวทั้งแบบตั้งอยู่กับที่และแบบเคลื่อนที่ไม่ว่าจะเป็น ทางรถ(เข็น)หรือทางเรือก็ตาม ซึ่งก๋วยเตี๋ยวนั้นจอมพล ป. เห็นว่าเป็นอาหารที่มีพื้นแพ มาจากประเทศจีน
ในช่วงนั้นรัฐบาลพยายามอย่างมาก ที่จะถอดถอนความเป็นจีนออกจากคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหลายที่อยู่ในประเทศไทย ถึงกับมีการสั่งห้ามไม่ให้มีการสอนหนังสือจีน ในเมืองไทย แต่สิ่งหนึ่งที่ยากแก่การปราบปรามก็คือ "ก๋วยตี๋ยว"นี่เอง ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเป็นหนามตำใจของรัฐบาลในขณะนั้น
       แสดงว่าอิทธิ์ฤทธิ์ของก๋วยเตี๋ยวนั้นยังคงขลัง  และทรงพลังมาจนถึงบัดนี้
        แต่ในที่สุดรัฐบาลก็ได้คิดค้นอาหารขึ้นมาชนิดหนึ่งเพื่อจะส่งเสริมให้ประชาชนนำไปทำมาค้าขายแทนที่การขายก๋วยเตี๋ยว (จีน) โดยอาหารชนิดนี้พยายามสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองที่ตรงกันข้ามกับก๋วยเตี๋ยว (จีน)
       เราก็ได้ "เส้นจันท์" ขึ้นมา ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะแก่การผัดในกระทะ ก๋วยเตี๋ยว (จีน) มักจะกินเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ อาหารนี้กินแบบแห้งเท่านั้น (เพราะใช้ในการผัด) และสุดท้าย
       เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่าอาหารนี้เป็น อาหารของคนไทยอย่างแน่นอน จึงตั้งชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย"
ก๋วยเตี๋ยว ผัดไทยจึงเป็นอาหารที่เกิดขึ้นมาภายใต้วัฒนธรรมแบบชาตินิยมที่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามพยายามสร้างขึ้นโดยแท้ เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมการกินแบบชาตินิยม ก็เห็นจะไม่ผิดไปจากความจริง
ปิดท้ายด้วยคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าผัดไทย  นั้นสะกดอย่างไรถึงจะถูก เพราะเห็นร้านอาหารทั้งหลายที่ขาย บางร้านก้อเขียน"ผัดไทย"  บางร้านก้อเขียน "ผัดไท"  สรุป มี ย. ห้วยตามท้ายหรือไม่
สรุปคือ เมื่อผัดไทย เป็นอาหารที่ถูกคลอดมาเพื่อสร้างความเป็นชาตินิยมของคนไทย  ดังนั้น ต้องสะกดว่า"ผัดไทย"เท่านั้น ที่ถูกต้องที่สุด  ร้านค้าทั้งหลายที่ยังเขียนผิดอยู่ ช่วยเอาปากกาไปเขียน ย.ยักษ์ เติมท้ายโดยพลัน
        เดี๋ยวจะโดนกล่าวหาว่าทำอาหารไม่มีความเป็นชาตินิยม...แฮ่ม!

กุนซือ
p_kiti@hotmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น