เรื่องหนึ่งที่ผมค่อนข้างจะกลัวเป็นพิเศษ คือเรื่อง ตกข่าว ตกกระแส ดังนั้นทุกวันเลยต้องพยายามทำตัวให้อัพ เดท กับเขาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะวัยรุ่นขาโจ๋ทั้งหลายว่ายุคนี้ นาทีนี้ เขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว
อย่างหนึ่งที่เป็นตัวช่วยคือเข้าไปอ่านกระทู้ในเว็บชื่อดังต่างๆ ดูศัพท์แสง ความคิดที่แสดงออกผ่านโลกออนไลน์ ที่ไม่มีขอบกั้น ทำให้ได้รู้ว่าใต้สมองวัยรุ่นไทยตอนนี้เป็นอย่างไร
วัยรุ่นนั้นถือว่าเป็นคนที่อยู่ในวัยที่”พลังงานเหลือเฟือ” ดังนั้นต้องมีกิจกรรมให้ทำ ให้คิดอยู่มากมาย เข้าข่าย”อยู่นิ่งไม่ได้ ขอไฮเปอร์ซักเล็กน้อย” ยิ่งพ.ศนี้ วัยรุ่นไทยใช้อินเตอร์เน็ตเป็นฐานในการแสดงออกของตนมากยิ่งขึ้น เลยก่อเกิดศัพท์แสลงมากมาย เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า นี่เป็นศัพท์ของชนชั้นวัยรุ่น ผู้เฒ่าทั้งหลายถ้าอ่านผ่านตา ต้องทำหน้า”แมวสงสัย”โดยพลัน
ผมเองพยายามศึกษาศัพท์วัยรุ่นทั้งหลายมาโดยตลอดว่าที่มา ที่ไปเป็นอย่างไร เพราะศัพท์บางตัวเป็นการพัฒนาผสมคำในระดับที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องอึ้ง นึกอยู่ในใจว่า”คิดได้งัยฟ่ะ” หลายเดือนที่ผ่านมามีประโยคหนึ่งที่หลุดเข้าในใจผม อ่านปุ๊บ งงปั๊บ มันแปลว่าอะไรครับพี่น้อง
คือคำว่า"เกรียน” ในโลกไซเบอร์ของวัยรุ่น
วันนี้เลยขออนุญาตขาโจ๋ทั้งหลาย มาอธิบายนิยามของคำว่า”เกรียน” ให้กับผู้อ่านที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย รวมถึงผู้เฒ่าชราทั้งหลายได้รับทราบ เผื่อเป็นองค์ความรู้ ในยามที่ต้องปะทะขาโจ๋ทั้งหลาย เพื่อจะได้ไม่ได้ถูกประณามว่า “แก่เกินแกง”
ย้อนรอยถอยหลังไปในสมัยที่เกม แร็กนาร็อกออนไลน์ โด่งดังไปทั่วไทย เด็กไทยคนไหนไม่เล่นแสดงว่าตกกระแส จนสุดท้ายกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทสและการสื่อสารต้องออกโรงเข้ามาออกกฏว่า ห้ามเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์หลัง 4 ทุ่ม และห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน
พอกฎเหล็กออกมาอย่างนี้ บรรดาวัยรุ่นตั้งไข่ จนถึงวัยรุ่นเต็มตัวทั้งหลายก็เลยเดือดร้อนกันถ้วนหน้า สิ่งที่ระบายอารมณ์ออกมาได้คือ เข้าไปเขียนกระทู้ต่างๆในเว็บไซต์ เพื่อปลดปล่อยความโมโห และความไม่พอใจของตน และแน่นอนว่า ข้อความทั้งหลายที่ระบายออกมาแต่ละประโยค แต่ละคำล้วนแล้วแต่ก้าวร้าว และดุดัน
คำว่า”เกรียน” และอุแว้ ออกมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคนกลุ่มนี้
ตอนหลังเริ่มมีการพัฒนาการไปอีกขั้น จากนิยามที่ว่าเป็นเด็กก้าวร้าว ที่ขาดการควบคุมดูแล คำว่า”เกรียน”อาจจะหมายถึง บรรดาพวกที่หน่อมแน้มทั้งหลาย ไม่ประสีประสากับโลกใบนี้เวลา
แชดกันหรือให้ความเห็นในกระทู้ในเว็บ ก็แสดงว่าเปิ่น ความเชยให้เห็นเป็นระยะๆ บรรดาคนแบบนี้มักจะได้รับประโยคตอบรับ สวนกลับมาว่า
“อย่ามา...เกรียน” ถือว่าเป็นประโยคที่เจ็บมาก ตบหน้าสิบทียังไม่เจ็บเท่าประโยคนี้
มีคนเขียนทฤษฎีว่าด้วยบุคลิกภาพของเกรียนดังนี้ว่าบุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ
1.มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
2.มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่า
บุคคลปกติ
3.ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
4.ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
5.ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
6.มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
7.ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ
วันนี้ประเทศไทยกำลังโดนเผาบ้าน เพราะคนไทยไม่สนใจว่าชาติจะเป็นอย่างไร ขอให้กลุ่มของตน ทัศนคติของตนเป็นใหญ่ก็พอ ถึงเวลาแล้วครับที่คนไทยส่วนใหญ่ในบ้านหลังนี้ จะต้องออกมาตะโกนให้ทั้ง กลุ่มที่เผาบ้าน เผาเมือง ในตอนนี้ให้รับรู้ว่า
“เฮ้ย ....เอ็งอย่ามาเกรียน”
กุนซือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น