วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แอ่ว ภูเก็ต



ถ้าไปยืนตรงประตูผู้โดยสารขาเข้า ของสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วถามนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า มีโปรแกรมจะเที่ยวที่ไหนในเมืองไทย คำตอบส่วนใหญ่มีอยู่สองคำตอบ คือ เที่ยวกรุงเทพ ลงไปภูเก็ต แล้วขึ้นไปเชียงใหม่
ส่วนอีกคำตอบคือ เที่ยวกรุงเทพ ขึ้นไปเชียงใหม่ แล้วลงมาเที่ยวภูเก็ต
ภูเก็ต กับ เชียงใหม่ นั้นถือว่าเป็นหัวเมืองยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาโดยตลอด ต่างฝ่ายต่างมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง เชียงใหม่ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรม และขุนเขา
       ส่วนภูเก็ตนั้น ฉายาไข่มุกแห่งอันดามัน ก้อเป็นเหมือนหนังสือการันตีว่าถ้ามาเมืองไทย..พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


สองเมืองกลายเป็นพิกัดหลักของนักท่องเที่ยวทั้งไทย-เทศ  เลยเข้ากฏแห่งเศรษฐศาสตร์ เมื่อดีมานด์มันเพิ่มพรวด ซัพพลายก็วิ่งตามติดมาทันที โดยเฉพาะนกเหล็กสายการบินต่างๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นการเดินทางยอดนิยมของคนไทย
       สายการบินต่างๆ เหลียวซ้ายมองขวาก้อมองออกว่า ตลาดของเส้นทางนี้กำลังเปิดกว้าง ล่าสุดเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา นกเหล็กบางกอกแอร์เวย์ ก็เปิดไฟล์ทบินตรงเชียงใหม่-ภูเก็ต ขึ้นมารองรับสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ทางบางกอกแอร์เลยส่งเทียบเชิญให้ผมร่วมบินไปสำรวจกับไฟล์ทนี้
บางกอกแอร์เวย์ ที่ได้ฉายาบูติก แอร์ไลน์นั้น ช่วงหลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ถูกอกถูกใจบรรดาผู้โดยสารทั้งหลายที่พูดเป็นเสียงเดียวกันคือ  ห้องรับรองในสนามบิน ที่เปิดบริการให้กับลูกค้าของสายการบินทุกคน เมื่อก่อนหลายคนออกอาการเบื่อ เวลาที่ต้องมานั่งรอเที่ยวบินในสนามบินนานๆ  แต่พอบินกับบางกอกแอร์เวย์ ปัญหานี้หมดไปทันที แถมตอนนี้ยังออกแนวป๋า เข้ากับกระแสคนไทยฮิตปั่นจักรยาน โดยสารการบินเปิดไฟเขียวให้ลูกค้าสามารถโหลดจักรยานขึ้นเครื่องฟรี ทุกเส้นทาง แถมยังเข้ากับธีมของเชียงใหม่ ที่กำลังรณรงค์ให้เป็น"เมืองจักรยาน"


วกกลับมาถึงห้องรับรองในสนามบินของบางกอกแอร์เวย์ หลายคนชอบไปนั่งรอในห้องรับรอง ของบางกอกแอร์ เพราะสะดวกสบาย อาหารการกิน ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม เสริฟแบบไม่อั้น จนเริ่มติดใจกันเป็นทิวแถว
เครื่องเทคออฟที่เชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก้อแลนดิ้ง สู้สนามบินภูเก็ต ดินแดนแห่งทะเลสวย และหาดทรายขาว
เหลียวหลังไปมองภูเก็ตในอดีต  มีหลายกระแส บ้างก็ว่าภูเก็ตเป็นเกาะ ที่ค้นพบโดยชาวประมง แต่เดิมเรียกว่า “บูกิต” ซึ่งเป็นภาษามลายูแปลว่าภูเขา เพราะเมื่อมองจากทะเล จะเห็นเหมือนมีภูเขา โผล่ขึ้นกลางน้ำ แต่บางกระแส ก็ว่าภูเก็ตมาจากคำว่า “ภูเก็จ” แปลว่าภูเขาที่มีค่า


แต่ที่แน่ๆ ภูเก็ตนั้นขึ้นแท่นว่า เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ 543.034 ตร.กม เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุดในประเทศไทย ประชากรที่บันทึกไว้ล่าสุดอยุ่ที่ 369,522 คน เฉลี่ยความหนาแน่น บวกลบคูณหารแล้วได้ตัวเลข 680.47 คน/ตร.กม. แต่ความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขจริงของประชากรของภูเก็ตตอนนี้อาจจะมากกว่าหลายเท่า เพราะมีคนจากต่างถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย ดังนั้น ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาขุดทอง ทำธุรกิจกันเต็มเมือง
ในอดีตนั้น ชาวเลเป็นชาวกลุ่มแรก ๆ ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะภูเก็ต จากนั้นมาจึงกลุ่มชนอื่น ๆ อพยพตามมาอีกจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ชาวไทย ชาวมาเลเซีย ฯลฯ จนมีวัฒนธรรมเฉพาะเป็นของตนเองสืบทอดมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นสีสันอย่างหนึ่งของภูเก็ต  เพราะปัจจุบันชาวภูเก็ตว่าเป็นพวกผสมผสานกันทางด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมกับชาวมลายู
ปัจจุบันชาวภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีนฮกเกี้ยน ชาวจีนช่องแคบ ชาวจีนกวางตุ้ง ฯลฯ รวมไปถึงชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม แถบอำเภอถลาง โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมมีจำนวนถึงร้อยละ 20-36 ของประชากรในภูเก็ต  นี่ยังไม่รวมแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และเขมรราวหมื่นคน
ด้านทางศาสนา ประชากรส่วนใหญ่ในภูเก็ตนับถือศาสนาพุทธร้อยละ 73, ศาสนาอิสลามร้อยละ 25, ศาสนาคริสต์และอื่น ๆ ร้อยละ 2


พอดีผมโชคดีที่ทริปนี้ ทางบางกอกแอร์ เขาจับมือกับโรงแรมแคป พันวา โรงแรมหรู ตั้งอยู่บริเวณแหลมพันวา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต เป็นที่พัก โรงแรมแคป พันวา ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเกษมกิจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องอธิบายมากความว่า โรงแรมจะหรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพรียบพร้อมแค่ไหน


        แถมโรงแรมแคป พันวา ยังเพิ่งลงทุนไปหลายสิบล้าน ในการรีโนเวท เพื่อสมกับฉายาว่าเป็นโฉมงามแห่งธรรมชาตินั้น  โดยเฉพาะห้องพักใหม่ให้เป็นห้องสวีททั้งหมด ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี ในบรรยากาศรีสอร์ต แถมมีหาดทรายขาวส่วนตัวทอดยาวเกือบ 300 เมตร ให้ กับแขกที่มาพักได้สำผัสกับทะเล แบบไม่มีใครรบกวน
งานนี้ผมเองเลยเคลิ้มๆ นึกว่าตัวเองเป็นนักข่าว วีไอพี ไปโดยปริยาย

ถ้าใครถามว่า ไปภูเก็ตแล้วเที่ยวที่ไหนดี ก้อต้องบอกว่าจังหวัดภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ โดยมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นคือชายหาดต่างๆ เช่น หาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ หาดกมลา ฯลฯ
        นอกจากนี้ยังมีเกาะใหญ่น้อยต่างๆ รอบภูเก็ต เช่น เกาะไม้ท่อน เกาะราชา เกาะรัง เกาะเฮ เกาะสิเหร่ เป็นต้น รวมทั้งมีน้ำตกบางแป น้ำตกกะทู้ และน้ำตกโตนไทรด้วย
        สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์และศาสนสถานที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี วัดฉลอง ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เป็นต้น
        นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ภูเก็ตแฟนตาซี พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ภูเก็ต ฯลฯ

ใครที่เริ่มอยากเดินเล่นชายหาด สัมผัสกลิ่นไอทะเล ภูเก็ตเป็นทางเลือกที่มองข้ามไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะคนไทย ไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนไกลๆหรอกครับ ของดีเมืองไทยมีอยู่เยอะแยะ
          อยู่ที่ว่าสนใจจะไขว่คว้าหรือเปล่า..เท่านั้นเอง!

กุนซือ
p_kiti@hotmail.com